คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันผิดสัญญาประกัน และศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาแล้ว การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลาส่งตัวจำเลยไป หรือลดค่าปรับลงโดยขอผ่อนชำระค่าปรับเป็นรายเดือน แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนนั้น คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งบังคับตามสัญญาประกัน ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 114 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 4 บัญญัติว่าให้เป็นที่สุด ผู้ประกันจึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ลงโทษปรับจำเลยที่ ๑ เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท และจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๙ เดือน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอประกันตัวจำเลยที่ ๒ ในระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ถึงกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยที่ ๒ ต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อน แต่เมื่อถึงกำหนดนัดผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยที่ ๒ ต่อศาลชั้นต้นอีก ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล ผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยที่ ๒ มาส่งได้ ถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกัน ให้ชำระค่าปรับต่อศาลชั้นต้นภายใน ๑๕ วัน พฤติการณ์มีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยที่ ๒ หลบหนี ให้ออกหมายจับจำเลยที่ ๒ และให้นักฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ต่อมาวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๓๒ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลาส่งตัวจำเลยที่ ๒ ไปถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๓๒ หรือลดค่าปรับลงเป็นเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท โดยขอผ่อนชำระค่าปรับที่เหลือเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๓๒ เป็นต้นไป
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ประกันผิดสัญญาประกันและศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันแล้ว การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลาส่งตัวจำเลยที่ ๒ ไป หรือลดค่าปรับลงโดยขอผ่อนชำระค่าปรับเป็นรายเดือน แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งบังคับตามสัญญาประกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๔ ผู้ประกันจึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด
พิพากษายกฎีกาผู้ประกัน

Share