คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดอันมิใช่ความผิดอันยอมความได้ แม้ผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์เมื่อพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๒๔ เวลากลางวัน จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่า เป็นความเท็จแก่ร้อยตำรวจตรีสุพจน์ บุญมา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดินแดง เพื่อจะแกล้งให้พลทหารสุวัฒน์หรือแดง ภู่ระหงษ์ และนายสุคนธ์ โห้แพร ต้องรับโทษ ข้อความที่จำเลยแจ้งมีใจความสำคัญว่า พลทหารสุวัฒน์ใช้อาวุธปืนลูกของสั้นยิงจำเลย จำเลยล้มลง รู้สึกเจ็บที่แขนและหน้าอกด้านขวา มีโลหิตไหล แล้วนายสุคนธ์ โห้แพร เงื้อดาบจะฟันจำเลย แต่นายบุญมีกั้นไว้จึงฟันไม่ถูก ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับคนทั้งสอง ความจริงจำเลยไม่ได้เห็นคนทั้งสองร่วมกันประทุษร้ายจำเลยตามที่แจ้ง ร้อยตำรวจตรีสุพจน์หลงเชื่อว่าเป็นความจริงจึงดำเนินคดีกับคนทั้งสองผู้เสียหายคดีนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้เสียหายทั้งสองกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งทำให้ผู้เสียหายและประชาชนเสียหาย เหตุเกิดแขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๒, ๑๗๔, ๑๘๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๑ (๒) ลงโทษจำคุก ๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฎีกาว่า พลทหารสุวัฒน์และนายสุคนธ์ผู้เสียหายทั้งสองมิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า ความผิดที่โจทก์ ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้มิใช่ความผิดอันยอมความได้ ซึ่งหากเป็นความผิดอันยอมความได้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๒๑ ห้ามมิให้ทำการสอบสวน เว้นแต่จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ เมื่อคดีนี้มิใช่ความผิดอันยอมความได้ พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน

Share