แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องว่า จำเลยวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในสาธารณสถาน ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ด่าและโต้เถียงกัน ก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ได้ ไม่ถือว่าต่างกับฟ้อง เพราะคำว่าวิวาทหมายถึงการโต้เถียง ทุ่มเถียง ทะเลาะกัน ทั้งมาตรา 372 นี้ ยังบัญญัติถึงการกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยไว้อีกด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามฝ่ายหนึ่งกับนายน้อยและพวก อีกฝ่ายหนึ่งวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในสาธารณสถาน ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๒, ๓๗๙, ๘๓
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
ศาลแขวงพระนครใต้ฟังว่า จำเลยที่ ๑ ได้ด่าและโต้เถียงกับนายน้อย เป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๒ ส่วนจำเลยที่ ๒, ๓ ไม่ได้ร่วมวิวาทด้วย ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยวิวาททำร้ายร่างกายกันและกันในสาธารณสถาน ไม่ได้ฟ้องว่าจำเลยด่าโต้เถียงกัน ฯลฯ ศาลชั้นต้นลงโทษมาเป็นการนอกฟ้อง ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลแขวงพระนครใต้ลงโทษจำเลยนั้นไม่ต่างกับฟ้องโดยการที่จำเลยที่ ๑ ด่าและโต้เถียงกับนายน้อย อยู่ในความหมายตามฟ้อง โจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยเข้าร่วมวิวาท ฯลฯ ในสาธารณสถานแล้ว เพราะคำว่า “วิวาท” หมายถึงการโต้เถียง ทุ่มเถียง ทะเลาะกัน ทั้งตามมาตรา ๓๗๒ ก็บัญญัติว่า ฯลฯ หรือการกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษ ฯลฯ ด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ บังคับคดีลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น