คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่าแต่ผู้เดียว แม้ภรรยาจะเป็นผู้เช่า สามีก็เป็นบุคคลภายนอก จะเข้ามามีสิทธิด้วยตามสัญญาเช่าไม่ได้และถือไม่ได้ว่าสามีหรือภรรยาซึ่งลงชื่อในสัญญาเช่า ได้ทำการเพื่อทั้งสองฝ่าย
แม้จะถือว่าสิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สิน แต่ก็เป็นสิทธิตามสัญญาอันเป็นสิทธิเฉพาะตัว การโอนสิทธิการเช่าของภรรยาให้แก่บุคคลอื่น ย่อมเป็นสิทธิของภรรยาแต่ผู้เดียว ไม่ต้องรับความยินยอมจากสามี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าและบริวารออกจากที่ดิน และโรงเรือนของโจทก์
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า ได้เช่าช่วงที่ดินและอาคารรายพิพาทจากผู้มีชื่อซึ่งเช่ามาจากโจทก์ ต่อมาโจทก์ให้จำเลยไปทำสัญญาเช่า จำเลยที่ ๒ จึงให้จำเลยที่ ๑ ผู้เป็นภรรยาไปทำสัญญาเช่าแทน สิทธิการเช่าดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินร่วมกันระหว่างจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ไปโอนให้ผู้อื่นไม่ชอบ เป็นโมฆียะซึ่งจำเลยที่ ๒ ได้บอกล้างแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง และเมื่อโจทก์ให้กรมวิสามัญศึกษาเช่าแล้ว สิทธิในการฟ้องคดีนี้ย่อมตกอยู่แก่กรมวิสามัญศึกษา จำเลยเช่าที่ดินและโรงเรือนเพื่ออยู่อาศัย จึงได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน ฯ โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่า และไม่เคยบอกเลิกการเช่ากับจำเลย
จำเลยที่ ๓ ให้การว่า เป็นบุตรจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ และเป็นบริวารของจำเลยที่ ๒ และต่อสู้ในทำนองเดียวกันกับจำเลยที่ ๒
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า สัญญาเช่าเป็นสัญญาเฉพาะตัวระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า การโอนสิทธิการเช่าจึงเป็นเรื่องของจำเลยที่ ๑ โดยเฉพาะ หากจะฟังว่าจำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ก็ไม่มีสิทธิบอกล้างการโอนอันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสิทธิของบุคคลภายนอก โจทก์มีอำนาจฟ้องเพราะกรมวิสามัญศึกษายังไม่ได้เข้าครอบครองโรงเรือนและที่รายพิพาท ให้ขับไล่จำเลยทั้งสามออกไปจากที่ดิน และโรงเรือนรายพิพาท
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๔๔ แสดงว่าสิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่าแต่ผู้เดียว สิทธิการเช่าตามสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ ๑ กับโจทก์เป็นสิทธิของจำเลยที่ ๑ โดยเฉพาะ จำเลยที่ ๒ แม้จะเป็นสามีก็เป็นบุคคลภายนอกจะเข้ามามีสิทธิด้วยตามสัญญาเช่าไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสามีหรือภรรยาซึ่งลงชื่อในสัญญาเช่าได้ทำการเพื่อทั้งสองฝ่าย แม้จะถือว่าสิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สิน ก็เป็นสิทธิตามสัญญาอันเป็นสิทธิเฉพาะตัว และถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ ลงชื่อในสัญญาเช่าเพื่อหรือแทนจำเลยที่ ๒ การโอนสิทธิการเช่าของจำเลยที่ ๑ ให้แก่บุคคลอื่น ย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่ ๑ แต่ผู้เดียว ไม่ต้องรับความยินยอมของจำเลยที่ ๒
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลยที่ ๒

Share