คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2165/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำขอให้นับโทษต่อ เพราะคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ศาลยังไม่ได้พิพากษา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา และปรากฏว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง ดังนี้ ศาลฎีกาพิพากษาให้นับโทษต่อได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83 และนับโทษต่อจากคดีอีก 3 สำนวน จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดี 3 สำนวนตามฟ้องจริง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83 จำคุก 4 ปีให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 67,000 บาท แก่ผู้เสียหายทั้งสาม คำขอให้นับโทษต่อให้ยกเพราะคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้นศาลยังไม่ได้พิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอื่นอีกสามสำนวนตามที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้อง โดยอ้างว่าสำนวนคดีดำทั้งสามนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3330/2526, 3331/2526 และ 3332/2526 ของศาลชั้นต้นตามลำดับ จำเลยมิได้แก้ฎีกาปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงฟังได้ว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง ศาลฎีกาจึงมีอำนาจให้นับโทษต่อกันได้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อกันกับโทษจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3330/2526, 3331/2526 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share