คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2160/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย มิได้ขอให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เงินสดที่โจทก์อ้างว่าจำเลยได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงมิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้หรือวัตถุอื่น ซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามมาตรา 102 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 หรือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอันศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตาม ป.อ. มาตรา 33 (2) จึงไม่อาจริบได้ แม้จำเลยไม่ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๕, ๖๖, ๖๗, ๑๐๒ และริบของกลางที่เหลือทั้งหมด
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่ามีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองจริง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๑๕ วรรคหนึ่ง, ๖๕ วรรคสอง ริบเงินสด หลอดพลาสติกและถุงพลาสติกของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๒๕ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว… มีปัญหาว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบของกลาง คือเงินสดจำนวน ๒,๑๐๓ บาท ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืนในส่วนนี้นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เงินสดจำนวนดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๒ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้มาโดยกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอันศาลมีอำนาจสั่งให้ริบได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓ (๒) แห่งประมวลกฎหมายอาญา จึงไม่อาจริบได้ แม้จำเลยไม่ได้ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้ริบเงินสดจำนวน ๒,๑๐๓ บาท ของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๒.

Share