คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การครอบครองที่พิพาทต่างดอกเบี้ยเงินกู้เป็นการครอบครองแทนเจ้าของที่ดิน หาใช่ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของไม่ ถึงแม้จะครอบครองมาช้านานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
ข้อซึ่งจำเลยยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การแล้ว ถึงแม้จำเลยจะมิได้ถามค้านพยานโจทก์ ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนในข้อนี้ไว้ก็มีสิทธินำสืบข้อนี้ได้ กรณีไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินโฉนดที่ ๑๗๑๔ เดิมมีชื่อนางสุ่มมารดาจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ เมื่อประมาณ ๔๕ ปีมานี้ นางสุ่มขายที่ดินแปลงนี้ให้นายกาว พานนาก บิดาโจทก์เป็นเงิน ๘๐ บาท แล้วมอบให้บิดาโจทก์ครอบครองและมอบโฉนดให้ยึดถือไว้ ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายและไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นายกาว พนานากครอบครองโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมา เมื่อประมาณ ๒๐ ปีมานี้ โจทก์เป็นผู้รับมรดกของนายกาวและครอบครองที่ดินต่อมาจนบัดนี้เกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว ส่วนโฉนดค้นหาไม่พบ บัดนี้จำเลยยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าโฉนดที่ดินหายไป ขอให้ออกใบแทนและขอรับมรดกของนางสุ่ม เป็นการขัดขวางการครอบครองของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยการครอบครอง ถ้าจำเลยจะออกใบแทนโฉนด ก็ขอให้สั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินถอนชื่อนางสุ่มออกแล้วลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
จำเลยให้การว่า เมื่อประมาณ ๔๐ ปีมานี้ จำเลยกู้เงินจากนายกาวพานนาก ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๑ เงิน ๑๐๐ บาท ครั้งที่ ๒ เงิน ๘๐ บาท จำเลยได้นำโฉนดเลขที่ ๒๓๔๖ และ ๑๗๑๔ มอบให้นายกาว พานนาก ทำต่างดอกเบี้ยและให้นายกาวเสียภาษีบำรุงท้องที่ให้ด้วยเมื่อนายกาว พานนาก ตายจำเลยนำเงิน ๑๘๐ บาท ไปชำระให้โจทก์ โจทก์เรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ฉบับที่หนึ่ง ๕๐๐ บาท ฉบับที่สอง ๔๐๐ บาท แต่โจทก์มีโฉนดเลขที่ ๒๓๔๖ คืนให้จำเลยฉบับเดียว ส่วนโฉนดที่ ๑๗๑๔ โจทก์ค้นหาไม่พบ จำเลยจึงไม่ชำระเงิน ๔๐๐ บาทให้ ต่อมาจำเลยไปทวงถามโจทก์อีกหลายครั้งครั้งสุดท้ายไปถามว่าหาโฉนดพบแล้วหรือยัง โจทก์ตอบว่าหาไม่พบและหายเสียแล้ว จำเลยจึงยื่นคำร้องขอรับมรดกของนางสุ่มต่อเจ้าพนักงานที่ดิน และขอให้ออกใบแทนโฉนดให้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ ส่วนเรื่องการออกใบแทนโฉนดให้โจทก์ไปดำเนินการทางสำนักงานที่ดินเอง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ทำนาที่พิพาทต่างดอกเบี้ยเงินกู้ หาใช่เป็นการซื้อขายไม่ การครอบครองโจทก์เป็นการครอบครองแทนจำเลยโจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ พิพากษากลับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทต่างดอกเบี้ยเงินกู้จึงเป็นการครอบครองแทนจำเลย หาใช่ครอบครองอย่างเป็นของโจทก์ไม่แม้จะครอบครองมาช้านานเท่าใด โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า จำเลยนำสืบว่าจำเลยไปขอชำระเงินกู้แก่โจทก์และขอออกโฉนดสำหรับที่พิพาทคืน แต่โจทก์ขอผัดตลอดมาจำเลยมิได้ถามค้านพยานโจทก์ไว้ จึงรับฟังไม่ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การของจำเลยแล้ว ถึงแม้จำเลยจะมิได้ถามค้านพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนในข้อนี้ไว้ จำเลยก็ยังมีสิทธินำสืบในข้อนี้ได้ กรณีไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๙ แต่ประการใด
พิพากษายืน

Share