คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นของกลางจับได้ที่บ้าน ม. จำเลยทั้งสองมีบ้านอยู่ต่างหาก ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ม. แต่มาเยี่ยม ม. ในวันเกิดเหตุ และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวอย่างใด นอกจากการเสพฝิ่นและการที่จำเลยทั้งสองต่างเสพฝิ่นนั้นก็ไม่เป็นการมีกล้องสูบฝิ่นและฝิ่นที่เสพไว้ในความครอบครองร่วมกับ ม.จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นไว้ในความครอบครองด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองบังอาจสมคบร่วมกับจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 185/2521 ของศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้วมีฝิ่นดิบ 1 ห่อ มูลฝิ่น 1 ห่อ กล้องสูบฝิ่น 1 อัน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้บังอาจร่วมกันเสพฝิ่นโดยไม่รับอนุญาตด้วย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 ฯลฯ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติฝิ่นพ.ศ. 2472 ฯลฯ ลงโทษจำคุกฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นคนละ 6 เดือน ฐานเสพฝิ่นจำคุกคนละ 6 เดือน ฐานมีกล้องสูบฝิ่นปรับคนละ 200 บาท รวมโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 200 บาท

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหามีฝิ่น มูลฝิ่นและกล้องสูบฝิ่นโดยไม่รับอนุญาต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า จำเลยทั้งสองจะมีความผิดฐานร่วมกันมีฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นไว้ในความครอบครองหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าของกลางทั้งหมดจับได้ที่บ้านนางมงคล จำเลยทั้งสองมีบ้านอยู่ต่างหากไม่ได้อยู่บ้านนายมงคลแต่มาเยี่ยมนายมงคลในวันเกิดเหตุ และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวอย่างไร นอกจากการเสพฝิ่น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าว การที่จำเลยทั้งสองต่างเสพฝิ่นก็ไม่เป็นการมีกล้องสูบฝิ่น และฝิ่นที่เสพไว้ในความครอบครองร่วมกับนายมงคลด้วย คดีจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองมีฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่น ไว้ในความครอบครอง

พิพากษายืน

Share