คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2069/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษาคดี 17 สำนวน ซึ่ง ว. จำเลยถูกฟ้องทุกสำนวน บางสำนวนมีจำเลยอื่นร่วมด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยตัดบทมาตราที่ศาลชั้นต้นปรับบทไว้เกินฟ้องออกบ้าง ที่ศาลชั้นต้นให้ลงโทษตามบทหนักที่สุดก็แก้เป็นว่าให้ลงโทษตามกระทงที่หนักที่สุดหรือตามบทและกระทงที่หนักที่สุดด้วย แล้วแต่กรณีบางสำนวนยังคงลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 8 เดือนตามเดิมบ้าง ตัดมาตราที่เกินฟ้องออกแล้วแก้โทษให้เบาลงจาก 3 ปี 8 เดือน เป็น 1 ปี 4 เดือนบ้าง เป็น2 ปีบ้าง และที่ศาลชั้นต้นไม่สั่งให้นับโทษติดต่อกันก็ให้นับโทษจำเลยทั้ง 17 สำนวนติดต่อกันด้วย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และโทษจำคุกของจำเลยแต่ละคนแต่ละสำนวนไม่เกิน 5 ปี คู่ความฎีกาได้แต่ในปัญหาข้อกฎหมาย
สำหรับ ว. นั้น แม้เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้นับโทษทั้ง 17 สำนวนติดต่อกันแล้วรวมเป็นโทษจำคุกถึง 20 ปี ก็เป็นเรื่องของการบังคับคดี เพียงแต่แก้เป็นให้นับโทษของแต่ละสำนวนต่อกับโทษในสำนวนอื่นนั้น จะถือว่าเป็นการแก้ไขมากหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีทั้ง 17 สำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา

สำนวนที่ 1 และ 2 โจทก์ฟ้องนายวิชัยเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310, 83 และขอให้นับโทษติดต่อกันสำนวนที่ 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13, 15 ฟ้องนายวิชัยคนเดียวเป็นจำเลยสำนวนที่ 3 ฟ้องนายวิชัยและนายยาวเป็นจำเลย สำนวนที่ 8, 9, 14, 16ฟ้องนายวิชัย นายยาว และนายใบเป็นจำเลย สำนวนที่ 17 ฟ้องนายวิชัยนายใบ และนายมูล เป็นจำเลย ในสำนวนที่ 3 ขอให้ลงโทษตามมาตรา 283,310, 83 ในสำนวนที่ 4, 5, 6, 7, 9, 11, 12, 13, 14 ตามมาตรา 283,309, 310, 83 ในสำนวนที่ 8, 16, 17 ตามมาตรา 282, 283, 309, 310,83 ในสำนวนที่ 14 ตามมาตรา 282, 310, 83 และนับโทษติดต่อกัน สำนวนที่ 10 ฟ้องนายวิชัย นายยาว และนายมูลเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามมาตรา 282, 283, 309, 310, 83, 90, 91 และขอให้นับโทษต่อกัน

จำเลยทุกคนให้การรับสารภาพ เมื่อโจทก์สืบพยานไปบ้างแล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านายวิชัยจำเลยมีความผิดตามมาตรา 309, 310ในสำนวนที่ 1, 2 กับมีความผิดตามมาตรา 282, 283 และ 309, 310 ในสำนวนที่ 3 ถึง 17 นายยาวจำเลยมีความผิดตามมาตรา 282, 284 และ 309,310 ในสำนวนที่ 3, 8, 9, 10, 14, 16 นายใบจำเลยมีความผิดตามาตรา282, 283, และ 309, 310 ในสำนวนที่ 8, 9, 14, 16, 17 นายมูลจำเลยมีความผิดตามมาตรา 282, 283, และ 309, 310 ในสำนวนที่ 8, 9, 14,16, 17 นายมูลจำเลยมีความผิดตามมาตรา 282, 283 และ 309, 310 ในสำนวนที่ 10, 17 เห็นว่าการกระทำผิดตามมาตรา 282, 283 กับความผิดตามมาตรา 309, 310 ใน 15 สำนวนหลัง จำเลยกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกัน สมควรลงโทษบทหนักที่สุดตามมาตรา 283, 90 ให้จำคุกนายวิชัยจำเลยในสำนวนที่ 1, 2 ตามมาตรา 309 สำนวนละ 2 ปี ในสำนวนอื่น ๆ ให้ลงโทษตามมาตรา 283 อันเป็นบทหนัก ให้จำคุกนายวิชัย นายยาว นายใบ นายมูลจำเลยคนละและสำนวนละ 5 ปี 6 เดือน ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกนายวิชัยจำเลยในสำนวนที่ 1, 2 สำนวนละ 1 ปี 4 เดือน ในสำนวนอื่นตามที่จำเลยแต่ละคนถูกฟ้องให้จำคุกจำเลยคนละสำนวนละ 3 ปี 8 เดือน ตามรูปคดีและพฤติการณ์ยังไม่สมควรให้นับโทษต่อ ให้นับโทษจำเลยทั้ง 17 สำนวนพร้อมกันไป

โจทก์ นายวิชัย นายใบ จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า สำนวนที่ 3 นายวิชัยและนายยาวจำเลยมีความผิดตามมาตรา 283, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นกระทงที่หนักที่สุดตามมาตรา 91 ลดโทษแล้วให้จำคุกคนละ 3 ปี 8 เดือนสำนวนที่ 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13, 15 นายวิชัยผิดตามมาตรา 283, 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด ลดโทษแล้วให้จำคุกสำนวนละ 3 ปี 8 เดือน สำนวนที่ 8 นายวิชัย นายยาว นายใบจำเลยผิดตามมาตรา 283, 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นบทหนักและกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 90, 91 ลดโทษแล้วให้จำคุกคนละ 3 ปี 8 เดือน สำนวนที่ 9 นายวิชัย นายใบ นายยาว จำเลยผิดตามมาตรา 283, 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดลดโทษแล้วให้จำคุกคนละ 3 ปี 8 เดือน สำนวนที่ 10 นายวิชัย นายยาวจำเลยผิดตามมาตรา 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 309 กระทงเดียว ลดโทษแล้วจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ส่วนนายมูลจำเลยผิดตามมาตรา 282, 283, 309 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นบทและกระทงหนักที่สุด ลดโทษแล้วจำคุก 3 ปี 8 เดือน สำนวนที่ 14 นายใบ นายวิชัย นายยาวจำเลยผิดตามมาตรา 282, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 282 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด ลดโทษแล้วจำคุกคนละ 2 ปี สำนวนที่ 16 นายวิชัย นายยาว นายใบ จำเลยผิดตามมาตรา 282, 283, 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นบทและกระทงหนักที่สุด ลดโทษแล้วจำคุกคนละ 3 ปี 8 เดือน สำนวนที่ 17นายวิชัย นายใบ นายมูล จำเลยผิดตามมาตรา 282, 283, 309, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 283 ซึ่งเป็นบทและกระทงหนักที่สุด ลดโทษแล้วจำคุกคนละ 3 ปี 8 เดือน ทั้งนี้ ให้นับโทษจำเลยทุกคนติดต่อกันไป เมื่อรวมโทษนายวิชัยจำเลยแล้วเป็นโทษจำคุกเกินกว่า 20 ปี แต่คดีทั้ง 17 สำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา จึงให้จำคุกนายวิชัยจำเลย 20 ปี ตามมาตรา 91 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

นายวิชัย นายยาว นายมูลจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดี 17 สำนวนนี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยปรับบทมาตราที่จำเลยกระทำผิดตามสำนวนที่ 3, 45, 6, 7, 9, 10, 11, 12, 13, 14 และ 15 ให้ตรงตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษ ตัดบทมาตราที่โจทก์มิได้ฟ้องออก และพิพากษาแก้การกระทำผิดของจำเลยตามสำนวนที่ 3 ถึง 17 ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นความผิดหลายบทและลงโทษตามบทหนักที่สุด เป็นความผิดหลายกระทงให้ลงโทษตามกระทงที่หนักที่สุด และให้นับโทษจำเลยทั้ง 17 สำนวนติดต่อกัน ซึ่งศาลชั้นต้นมิได้นับโทษของจำเลยติดต่อกัน เฉพาะสำนวนที่ 8, 16 และ 17 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลยตามบทและกระทงที่หนักที่สุด ส่วนกำหนดโทษของจำเลยแต่ละคน แต่ละสำนวน คงจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 8 เดือน มิได้แก้ไข สำนวนที่ 10 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้บทมาตรานายวิชัยและนายยาวหรือใจ้หมาจำเลยว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310 ซึ่งศาลชั้นต้นได้อ้างบทมาตรา 282, 283 ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องมาด้วย และแก้กำหนดโทษที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 8 เดือน เป็นจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 4 เดือน และสำนวนที่ 14 ได้แก้บทมาตรานายวิชัยและนายยาวหรือใจ้หมาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 310 โดยตัดมาตรา 283, 309 ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องออกเสีย และแก้โทษจากจำคุก 3 ปี 8 เดือน เหลือ 2 ปีด้วย อันเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและโทษจำคุกของจำเลยแต่ละคนแต่ละสำนวนก็ไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น

ฎีกาของนายวิชัยจำเลยเฉพาะที่ว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้นับโทษของจำเลยทั้ง 17 สำนวนติดต่อกัน รวมเป็นโทษจำคุกถึง 20 ปีเป็นการแก้ไขมาก นั้นเป็นฎีกาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้นับโทษจำเลยติดต่อกันนั้น เป็นเรื่องของการบังคับคดี การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แต่เพียงให้นับโทษของแต่ละสำนวนต่อกับโทษในสำนวนอื่นนั้น จะถือว่าเป็นการแก้ไขมากหาได้ไม่ ฎีกาของนายวิชัยจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนฎีกาข้ออื่นและฎีกาของนายยาวหรือใจ้หมาจำเลย กับฎีกาของนายประมูล หรือมูลจำเลยนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้

พิพากษายืน

Share