คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าที่ดินคืนโจทก์ศาลล่างพิพากษาตามฟ้อง แต่ปรากฏว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยได้ถึงแก่กรรมบุตรจำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลย เมื่อจำเลยซึ่งในระหว่างพิจารณายังมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเช่นนี้ สัญญาเช่าอันเป็นสิทธิเฉพาะตัวย่อมระงับสิ้นไป การที่จะบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ย่อมไม่อาจทำได้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไป ศาลฎีกาย่อมสั่งจำหน่ายคดีเสีย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และได้ปลูกเรือนไม้ขึ้น ๒ หลัง โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากัน โดยโจทก์ยอมโอนสิทธิการเช่าที่ดินและขายเรือนซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินแปลงดังกล่าวให้จำเลยเป็นเงิน ๑๗๐,๐๐๐ บาท จำเลยวางเงินมัดจำให้โจทก์ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจำเลยจะจ่ายให้เมื่อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่อำเภอ โจทก์ได้โอนสิทธิการเช่าที่ดินให้จำเลยแล้วและตกลงนัดทำนิติกรรมโอนเรือนแก่กัน เมื่อถึงกำหนดจำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมชำระเงิน และไม่ยอมไปทำนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าที่ดินคืนมาเป็นของโจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉยจึงขอให้บังคับจำเลยให้โอนสิทธิการเช่าที่ดิน หากจำเลยไม่ยอมโอนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยให้การว่า จำเลยได้เช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยตรง ไม่ได้รับโอนสิทธิการเช่าจากโจทก์และจำเลยได้ตกลงรับซื้อเรือนของโจทก์จริงแต่โจทก์บิดพลิ้วไม่ยอมโอนขายเรือนให้จำเลยโจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แม้จะฟังว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าคืนแก่โจทก์ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าที่ดินคืนแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยโดยนายปรีชา ใหญ่ไล้บาง ผู้รับมรดกความ ฎีกาว่าจำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาต่อโจทก์ ทั้งศาลจะบังคับให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้ ขอให้ยกฟ้องของโจทก์เสีย
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว ปรากฏว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายมา ใหญ่ไล้บาง บุตรจำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยตามคำสั่งศาลชั้นต้น ในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๑๒ เมื่อจำเลยซึ่งขณะนี้ยังมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว สัญญาเช่าอันเป็นสิทธิเฉพาะตัวย่อมระงับสิ้นไป การที่จะบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวให้แก่โจทก์ตามคำขอของโจทก์ย่อมไม่อาจทำได้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไป ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

Share