คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เพียงแต่ปรากฏว่า ผู้เสียหายไม่มีใบอนุญาตให้ขับขี่เท่านั้นยังไม่เป็นเหตุที่จะทำให้ฟังว่าประมาทเลินเล่อได้ในเมื่อทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยขับรถผิดทางเข้าไปชนรถผู้เสียหายเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำรถยนต์ซึ่งห้ามล้อมือใช้การไม่ได้มาวิ่งในถนนหลวง และขับรถด้วยความประมาทฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับเป็นเหตุให้รถจำเลยชนรถจักรยานสามล้อเครื่องเสียหายและคนบาดเจ็บ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลแขวงพระนครใต้พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดและประมาท ข้อแก้ตัวของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 66 และกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(2) ให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(2) ซึ่งเป็นบทหนักให้ปรับ 50 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้เป็นแต่คำกล่าวอ้างลอย ๆ ปราศจากหลักฐาน จึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ถ้าจำเลยไม่ขับรถแล่นกินทางเข้าไปแล้ว เหตุก็จะไม่เกิดขึ้น การที่จำเลยขับรถผิดทางเข้าไปชนรถที่ผู้เสียหายขับขี่และเพียงแต่ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่มีใบอนุญาตให้ขับขี่เท่านั้นยังไม่เป็นเหตุที่จะทำให้ฟังว่า ผู้เสียหายประมาทเลินเล่อได้

พิพากษายืน

Share