แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
มีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด จำหน่ายไป 1 หลอด จับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนที่เหลือ 3 หลอดกับเงินที่ล่อซื้อ ความผิดฐานมีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด กับจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอด เป็นต่างกระทงกัน
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอด ส่วนอีก 3 หลอดไม่พอฟังว่าเพื่อจำหน่าย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ, 20 ตรี ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2504 มาตรา 6, 7เป็น 2 กระทง ลดโทษและลงโทษที่รอไว้ เป็นจำคุก 4 ปี 6 เดือน ริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าเฮโรอีน 3 หลอดเป็นส่วนของที่มีไว้เพื่อจำหน่าย พิพากษาแก้เป็นจำคุกฐานมีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 5 ปี ฐานจำหน่ายเฮโรอีน 5 ปี ลดโทษและลงโทษที่รอไว้เป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า การกระทำของจำเลยที่มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกันกับการจำหน่ายเฮโรอีนหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งฟังว่าตามวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่าย 4 หลอด และได้จำหน่ายเฮโรอีนจำนวนนี้ให้แก่สิบตำรวจโทศิริพงษ์ วงศ์ตลาดขวัญไป 1 หลอด สิบตำรวจโทศิริพงศ์ได้นำเฮโรอีนดังกล่าวไปมอบให้ร้อยตำรวจโทภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ซึ่งรออยู่ที่บริเวณใกล้เคียง แล้วร้อยตำรวจโทภาณุพงษ์กับพวกได้เข้าตรวจค้นจับกุมจำเลย ได้เฮโรอีนที่เหลือในกระเป๋ากางเกงจำเลยอีก 1 หลอด กับธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อเป็นของกลาง ศาลฎีกา เห็นว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่าย 4 หลอดและได้จำหน่ายให้แก่สิบตำรวจโทศิริพงศ์ วงษ์ตลาดขวัญไป 1 หลอด แม้เฮโรอีนจำนวน 1 หลอดที่จำเลยจำหน่ายไปจะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกับเฮโรอีน 4 หลอดที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเป็นสองกระทงความผิด ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1997/2521 ระหว่างพนักงานอัยการกรมอัยการ โจทก์ นายวาฮัม ใจธรรมจำเลย”
พิพากษายืน