แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วางเพลิงจุดเผาบ้านเรือนซึ่งผู้เสียหายและครอบครัวใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่เป็นโรงเรือนชั่วคราว เรือนที่ไหม้เป็นเรือนเสาไม้จริงฟากพื้นไม่ไผ่ เครื่องบนไม้รวก หลังคากแฝกและใบหลวง ราคา 150 บาท และไฟยังไหม้ทรัพย์สินของผู้เสียหายอีก 276 บาทไม่ใช่เป็นทรัพย์เล็กน้อยสำหรับชาวชนบท การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม ม.186(1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจุดเผาบ้านเรือนอันเป็นเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนายชุ่ม แย้งเกษร ไหม้ ๑ หลังและไหม้สิ่งของอีกรวมทั้งสิ้น ๔๒๖ บาท ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๑๘๖
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าบ้านที่ไหม้ไม่ใหญ่โตแข็งแรงมีราคาเล็กน้อย ไม่น่ากลัวจะลุกลามไปถึงทรัพย์อื่น จำเลยควรมีผิดตาม ม.๑๘๙ แต่ไม่ปรากฎว่าได้มีการร้องทุกข์จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๑๘๖(๑),๕๙ จำคุก ๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าบ้านเรือนที่ไหม้เป็นเรือนเสาไม้จริงฟากพื้นไม้ไผ่ สูงจากดินสอกเศษ เครื่องบนไม้รวก หลังคามุงแฝกและใบพลวง จากพื้นถึงหลังคาสูงวาเศษ ราคา ๑๕๐ บาทใช้เป็นเคหะสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายและครอบครังรวมกันถึง ๔ คน ไม่ใช่เป็นเพียงโรงเรือนชั่วคราว นอกจากนั้นยังไหม้เสื้อผ้าอีกราคา ๒๗๖ บาท รวมเป็นเงิน ๔๒๖ บาท จึงไม่ใช่ทรัพย์เล็กน้อยสำหรับชาวชนบทเช่นผู้เสียหาย จำเลยจึงมีผิดฐานวางเพลิงจุดเผาที่เคหะสถานที่อยู่อาศัย ศาลฎีกาพิพากษายืน