คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า จะรับฟังดังคำพยานที่เบิกความต่อศาลไม่ได้ แต่อาจฟังว่าเคยให้การไว้เช่นนั้นเพื่อพิเคราะห์สอดส่องถึงข้อเท็จจริงอย่างเช่นเอกสารทางราชการที่ได้ทำขึ้นจากถ้อยคำของบุคคล(อ้างฎีกาที่ 51/2498)
คดีอาญาเรื่องปล้นทรัพย์ จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธชั้นศาล โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานและพยานรายทางอื่นมาสืบ คงมีคำให้การชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การรับสารภาพไว้โดยสมัครใจและนำชี้ที่เกิดเหตุให้ถ่ายภาพไว้กับมีตำรวจผู้จับและพนักงานสอบสวนมาสืบประกอบว่าได้จับกุมจำเลยทั้งสามได้ในที่แห่งเดียวกันและได้สร้อยคอของผู้เสียหายจากจำเลยที่ 2 ทั้งในชั้นสอบสวนผู้เสียหายได้ชี้ตัวจำเลยทั้งสามได้ถูกต้อง ดังนี้ ศาลรับฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามประกอบพยานแวดล้อมดังกล่าวลงโทษจำเลยทั้งสามได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 340 ตรี, 32 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 13, 14, 15 และสั่งริบของกลางเว้นสร้อยคอ

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง ประกอบมาตรา 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14, 15 ให้จำคุกคนละ 18 ปี คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประโยชน์ต่อการพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 12 ปี ของกลางริบ

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14 ให้จำคุกคนละ 12 ปี ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 8 ปี นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานและนายเจริญกับนายสมพยานรายทางมาสืบชั้นศาล โจทก์คงส่งแต่คำให้การชั้นสอบสวนซึ่งมีฐานะเป็นเพียงพยานบอกเล่า จะรับฟังดังคำพยานที่เบิกความต่อศาลไม่ได้ แต่ศาลอาจฟังว่าพยานเคยให้การไว้ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อพิเคราะห์สอดส่องถึงข้อเท็จจริงอย่างเช่นเอกสารทางราชการที่ได้ทำขึ้นจากถ้อยคำของบุคคล (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 51/2498) และฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจและนำชี้ที่เกิดเหตุตามภาพถ่ายที่ส่งศาล แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาสืบ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวน แต่โจทก์มีร้อยตำรวจโทมงคล ผู้ติดตามจับกุมจำเลยทั้งสามได้ในที่แห่งเดียวกัน และได้สร้อยคอของผู้เสียหายซึ่งถูกปล้นไปจากจำเลยที่ 2ทั้งผู้เสียหายชี้ตัวจำเลยทั้งสามได้ถูกต้องโดยมีพนักงานสอบสวนมาสืบประกอบ ก็เป็นการเพียงพอลงโทษจำเลยทั้งสามได้ แต่มีดของกลางไม่ได้ความว่าใช้ในการทำผิด

พิพากษาแก้ ให้คืนมีดของกลางแก่เจ้าของ นอกนั้นให้คงไว้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share