แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเห็นพี่ชายของนายจ้างกำลังถูกทำร้าย จึงใช้ปืนยิงไปกระสุนปืนไปถูกผู้ตายเข้าถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันแต่เกินกว่าเหตุ เพราะผู้ที่ถูกทำร้ายเป็นเพียงแต่ถูกขว้างและตีเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบังอาจสมคบกันใช้อาวุธปืนยิงพลทหารชิดเสนีวงศ์ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันเกินกว่าเหตุ พิพากษาให้จำคุกคนละ 5 ปี ตามกฎหมายอาญา มาตรา 249, 53 นายลิ้มจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนลดให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่ากระสุนปืนที่นายลิ้มจำเลยยิงได้ถูกผู้ตายพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าขณะที่จำเลยทั้งสองเดินกลับบ้านจากไปดูหนังตะลุงเวลากลางคืน ได้ยินเสียงท้าทายกันจำเลยทั้งสองได้ไปทางเสียงนั้น นายเชื้อจำเลยพูดว่าเสียงใครตีนายชิต นายชิตนี้เป็นพี่นายเชื้อจำเลย นายลิ้มจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างนายเชื้อจำเลยเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังทำร้ายนายชิตจึงยิงปืนไปเพื่อป้องกันนายชิดเป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกพลทหารชิดตาย เห็นว่าการกระทำของนายลิ้มจำเลยเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ เพราะนายชิดถูกคนร้ายขว้างและตีเท่านั้น ส่วนนายเชื้อจำเลยพยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นคนบอกให้นายลิ้มจำเลยยิง จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษนายลิ้มจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกนั้นยืน