แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำของผู้ถูกกระทำร้ายกล่าวก่อนตายนั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจศาลว่า ผู้ตายได้กล่าวขึ้นขณะที่รู้ตัวว่าหมดหวังที่จะรอดชีวิตแล้ว จึงจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายแช่ม สิทธิอินถึงแก่ความตายโดยเจตนาและกะสุนปืนถูกนางตุ้ย สิทธิอิน ด้วยแต่ไม่ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๖๐
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้อ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด ก.ม.อาญา ม.๒๔๙ จำคุกตลอดชีวิต
คู่ความไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมาศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ.ม.๒๔๕
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่โจทก์สืบมายังไม่ปราศจากความสงสัย คำของผู้ตายซึ่งนายสิบตำรวจโทสนิทได้สอบถามและบันทึกไว้ในคืนเกิดเหตุ ว่าผู้ตายได้บอกว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้นั้น โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เป็นที่พอใจศาลว่า ผู้ตายกล่าวในขณะที่ผู้ตายหมดหวังที่จะรอดชีวิตแล้ว จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างฎีกา ๓๑๕/๒๔๗๙) จึงพิพากษายืน