คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เช็คพิพาทระบุวันสั่งจ่ายล่วงหน้าถึงสองปีเศษ จำนวนเงินในเช็คตรงกับจำนวนหนี้พร้อมดอกเบี้ยของการผ่อนชำระหนี้ค่าสินค้ารวม 27 งวดผู้รับมอบอำนาจโจทก์ตอบคำถามค้านว่า หากจำเลยชำระหนี้ครบถ้วนโจทก์จะคืนเช็คพิพาทให้จำเลย พฤติการณ์ดังกล่าวมาเชื่อว่า จำเลยไม่ได้ออกเช็คพิพาทเพื่อชำระค่าสินค้าตามฟ้อง แต่เป็นการออกเช็คเพื่อประกันการชำระหนี้ค่าสินค้าดังกล่าวกรณีไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2542 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยออกเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักสวนมะลิ 2ลงวันที่ 31มีนาคม 2542 สั่งจ่ายเงินจำนวน 4,038,421.59 บาท ให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่ากระดาษปอนด์พิมพ์เขียนซึ่งเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คดังกล่าวถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย การกระทำของจำเลยเป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือในขณะที่ออกเช็คไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คหรือถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คจนจำนวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงินตามเช็คนั้นได้หรือห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต เหตุเกิดที่แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงประการเดียวว่า คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ เห็นว่า นางสาววราภรณ์ ผิวอ่อนผู้รับมอบอำนาจ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่ามีการตกลงผ่อนชำระหนี้ค่าสินค้าเป็นต้นเงินเดือนละประมาณ 150,000 บาท เริ่มผ่อนชำระวันที่ 20 มกราคม 2540 รวม 27 งวด และจะครบกำหนดชำระวันที่ 20 มีนาคม 2542 ตามสำเนารายงานการคำนวณดอกเบี้ยยอดคงค้างโจทก์ได้รับเช็คพิพาทเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2539 ตรงกับที่นางสาววราภรณ์เบิกความยอมรับแต่เช็คพิพาทระบุวันสั่งจ่ายวันที่ 31 มีนาคม 2542 อันเป็นการระบุวันสั่งจ่ายล่วงหน้าถึง 2 ปีเศษ นอกจากนี้จำนวนหนี้ที่ระบุไว้ในสำเนารายงานการคำนวณดอกเบี้ยยอดคงค้าง กับที่ระบุจำนวนเงินในเช็คพิพาทก็เป็นจำนวนเดียวกัน ประกอบกับได้ความจากคำเบิกความตอบคำถามค้านของนางสาววราภรณ์ว่า หากจำเลยชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว โจทก์จะคืนเช็คพิพาทให้จำเลย พฤติการณ์ดังกล่าวมาน่าเชื่อว่า จำเลยไม่ได้ออกเช็คพิพาทเพื่อชำระค่าสินค้าตามฟ้อง แต่เป็นการออกเช็คพิพาทเพื่อประกันการชำระหนี้ค่าสินค้าดังกล่าวตามสำเนารายงานการคำนวณดอกเบี้ยยอดคงค้าง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 คดีโจทก์ไม่มีมูล ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share