คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์ข้อแรกว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องตามที่ปรากฏในสำนวน แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์และจำเลยได้ตกลงกำหนดค่าจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนในการทำงานของโจทก์ไว้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2546 ดังนั้น โจทก์จะเริ่มทำงานกับจำเลยวันที่ 16 สิงหาคม 2546 หรือวันที่ 16 กันยายน 2546 ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางที่ให้โจทก์ได้รับโบนัสพิเศษประจำปี 2546 อุทธรณ์จำเลยข้อนี้จึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31 ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ข้อสองว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับโบนัสปกติผู้บริหารและโบนัสพิเศษประจำปี 2547 ซึ่งศาลแรงงานกลางได้นำข้อตกลงกำหนดค่าจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนในการทำงานของโจทก์เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2546 มาวินิจฉัยถึงสิทธิของโจทก์ เป็นการอุทธรณ์ขอให้ตีความข้อตกลงตามถ้อยคำในเอกสารที่ได้ตกลงกันไว้ จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินโบนัสพิเศษประจำปี 2546 จำนวน 50,000 บาท และเงินโบนัสปกติประจำปี 2547 จำนวน 120,000 บาท และเงินโบนัสพิเศษประจำปี 2547 จำนวน 300,000 บาท แก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินโบนัสพิเศษประจำปี 2546 จำนวน 50,000 บาท เงินโบนัสปกติประจำปี 2547 จำนวน 22,333.33 บาท และเงินโบนัสพิเศษประจำปี 2547 จำนวน 55,833.33 บาท แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อเป็นข้อเท็จจริง จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยเห็นว่า จำเลยอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงขัดกับพยานหลักฐานในสำนวนและคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์และจำเลยได้ตกลงกำหนดค่าจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนในการทำงานของโจทก์ไว้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2546 (ค.ศ.2003) ตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 4 หรือ ล.1 แผ่นที่ 2 แล้วศาลแรงงานกลางนำข้อตกลงดังกล่าวมาวินิจฉัยว่าแม้โจทก์จะเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2546 โจทก์ก็มีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษให้ได้รับโบนัสพิเศษประจำปี 2546 ที่จำเลยอุทธรณ์ ข้อ 1 ว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องตรงตามที่ปรากฏในสำนวน เพราะข้อเท็จจริงในสำนวนโจทก์เริ่มทำงานกับจำเลยเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 นั้น เห็นว่า แม้อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนั้น โจทก์เริ่มทำงานวันที่ 16 สิงหาคม 2546 หรือวันที่ 16 กันยายน 2546 ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง อุทธรณ์จำเลยข้อนี้จึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย ข้อ 1 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ข้อ 2 ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับโบนัสปกติผู้บริหารและโบนัสพิเศษประจำปี 2547 ซึ่งศาลแรงงานกลางได้นำเอาข้อตกลงตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 4 หรือ ล.1 แผ่นที่ 2 มาเป็นข้อวินิจฉัยถึงสิทธิของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ขอให้ตีความข้อตกลงตามถ้อยคำในเอกสารดังกล่าว เป็นการอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย
จึงให้รับอุทธรณ์ของจำเลยข้อ 2 ไว้ดำเนินการต่อไป”

Share