คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3465/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องสืบพยานโจทก์ แต่ถ้าข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพนั้น กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานอื่นที่หนักกว่านั้น ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยโดยไม่สืบพยานหลักฐานไม่ได้ ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้ต่อเมื่อโจทก์ได้นำสืบพยานหลักฐานให้ศาลรับฟังจนเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตามฟ้องในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น แม้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 66 ที่ใช้บังคับในขณะที่จำเลยที่ 1 กระทำผิดและถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาลจะกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป ซึ่งศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ต่อเมื่อได้สืบพยานหลักฐานและฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดจริงตามที่บัญญัติใน ป.วิ.อ. มาตรา 176 แต่เมื่อในระหว่างพิจาณราของศาลชั้นต้นได้มี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) ฯ มาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยมาตรา 66 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ มีระวางโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่สี่ปี ลดลงจากมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ตามกฎหมายเดิมที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี และคดีนี้เมทแอมเฟตามีนมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 17.448 กรัม ซึ่งไม่เกิน 20 กรัม ดังนั้น โทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยที่ 1 ตาม ป.อ. มาตรา 3 ข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยที่ 1 รับสารภาพจึงมีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกไม่ถึงห้าปี ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 97, 102 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง และเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การับสารภาพ และจำเลยที่ 1 รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกต้องระบุว่า (เดิม)), 66 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกมาตรา 66 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่)), 102 เนื่องจากภายหลังการกระทำความผิดมีกฎหมายที่ออกมาใช้ภายหลังการกระทำความผิดเป็นคุณแก่จำเลย จึงให้ใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุกคนละ 12 ปี เพิ่มโทษจำคุกจำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 เป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 18 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 9 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 เพราะจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพโดยไม่สืบพยานหลักฐาน และไม่ฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดจริง เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในชั้นพิจารณา ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่มีข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยรับสารภาพนั้น กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง” ตามกฎหมายดังกล่าวเห็นได้ว่า ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องสืบพยานโจทก์ แต่ถ้าข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพนั้นกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานอื่นที่หนักกว่านั้น ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยโดยไม่สืบพยานหลักฐานไม่ได้ ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้ต่อเมื่อโจทก์ได้นำสืบพยานหลักฐานให้ศาลรับฟังจนเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงสำหรับข้อหาในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ที่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตามฟ้อง แม้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 ที่ใช้บังคับในขณะที่จำเลยที่ 1 กระทำผิดและถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาลจะกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป ซึ่งศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ต่อเมื่อได้สืบพยานหลักฐานและฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดจริงตามที่บัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 แต่เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยมาตรา 66 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ มีระวางโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่สี่ปี ลดลงจากมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ตามกฎหมายเดิมที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี และคดีนี้เมทแอมเฟตามีนมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 17.448 กรัม ซึ่งไม่เกิน 20 กรัม กรณีโทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยที่ 1 รับสารภาพจึงมีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกไม่ถึงห้าปี ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ ตามที่บัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงด้วยกฎหมาย สำหรับโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดมานั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยที่ 1 ทุกข้อฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share