แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่2ดึงตัวผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่จำเลยที่3ก็เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราต่อหลังจากนั้นจำเลยที่1ก็เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีกสลับกันไปทั้งจำเลยที่1ก็ให้การว่าจำเลยที่1ไปยืนรอจำเลยที่3อยู่ขณะที่จำเลยที่3กำลังร่วมเพศกับผู้เสียหายและเห็นจำเลยที่2กำลังใส่กางเกงและจำเลยที่3ก็ให้การว่าขณะที่จำเลยที่2กำลังร่วมเพศกับผู้เสียหายจำเลยที่1กับที่3ได้นั่งรออยู่ห่างประมาณ3เมตรหลังจากจำเลยที่2ลุกขึ้นจำเลยที่3จึงได้เข้าไปร่วมเพศกับผู้เสียหายและหลังเกิดเหตุเมื่อผู้เสียหายเดินกลับมาที่ร้านขายข้าวแกงที่ผู้เสียหายทำงานก็พบจำเลยทั้งสามนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันพฤติการณ์ดังกล่าวจึงเป็นการร่วมกันกระทำผิดอันมีลักษณะเป็นการ โทรมเด็กหญิง
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 83
จำเลย ทั้ง สาม ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สาม มี ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ประกอบ ด้วย มาตรา 83จำคุก จำเลย ทั้ง สาม ตลอด ชีวิต คำให้การ รับสารภาพ ชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ หนึ่ง ใน สาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบ ด้วย มาตรา 53 คง จำคุก จำเลยคน ละ 33 ปี 4 เดือน
จำเลย ทั้ง สาม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย ทั้ง สาม มี ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก จำคุก จำเลย ทั้ง สาม คน ละ12 ปี คำให้การ รับสารภาพ ชั้นสอบสวน เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณามีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ คน ละ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คง จำคุก คน ละ 8 ปี
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คง มี ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกาของ โจทก์ ว่า การกระทำ ของ จำเลย ทั้ง สาม มี ลักษณะ เป็น การ โทรมเด็กหญิงหรือไม่ เห็นว่า ตาม ข้อเท็จจริง ที่ รับฟัง ได้ ก่อน เกิดเหตุ จำเลยทั้ง สาม อยู่ ด้วยกัน ที่ ทาง เข้า ประตู วัด พระนางสร้าง เมื่อ จำเลย ที่ 2ดึง ตัว ผู้เสียหาย ไป ข่มขืมกระทำ ชำเรา จน สำเร็จความใคร่ จำเลย ที่ 3ก็ เข้า ไป ข่มขืน กระทำ ชำเรา ต่อ หลังจาก นั้น จำเลย ที่ 1 ก็ เข้า ไปข่มขืน กระทำ ชำเรา ผู้เสียหาย อีก สลับ กัน ไป ทั้ง ตาม คำให้การ ชั้นสอบสวนของ จำเลย ที่ 1 ตาม เอกสาร หมาย จ. 8 ประกอบ ภาพถ่าย หมาย จ. 12 ภาพ ที่ 8จำเลย ที่ 1 ก็ ให้การ ว่า จำเลย ที่ 1 ไป ยืน รอ จำเลย ที่ 3 อยู่ ขณะที่จำเลย ที่ 3 กำลัง ร่วม เพศ กับ ผู้เสียหาย และ เห็น จำเลย ที่ 2 กำลังใส่ กางเกง และ ตาม คำให้การ ชั้นสอบสวน ของ จำเลย ที่ 3 ตาม เอกสาร หมาย จ. 10จำเลย ที่ 3 ก็ ให้การ ว่า ขณะที่ จำเลย ที่ 2 กำลัง ร่วม เพศ กับ ผู้เสียหายจำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ได้ นั่ง รอ อยู่ ห่าง จาก จุด ที่ จำเลย ที่ 2กำลัง ร่วม เพศ กับ ผู้เสียหาย ประมาณ 3 เมตร หลังจาก จำเลย ที่ 2 ลุกขึ้นจำเลย ที่ 3 จึง ได้ เข้า ไป ร่วม เพศ กับ ผู้เสียหาย และ หลัง เกิดเหตุผู้เสียหาย ก็ เบิกความ ว่า เมื่อ ผู้เสียหาย เดิน กลับมา ที่ ร้าน ขายข้าว แกง ที่ ผู้เสียหาย ทำงาน อยู่ ก็ พบ จำเลย ทั้ง สาม นั่ง กินข้าวอยู่ ด้วยกัน พฤติการณ์ ดังกล่าว จึง เป็น การ ร่วมกัน กระทำผิด อัน มี ลักษณะเป็น การ โทรมเด็ก หญิง ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษา มา นั้น ศาลฎีกาไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น ”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ บังคับคดี ไป ตาม คำพิพากษา ของ ศาลชั้นต้น