แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยปลูกตึกแถวชิดตึกแถวของโจทก์โดยได้รับอนุญาตจากเทศบาล แม้จะเป็นการผิดเทศบัญญัติ แต่ถ้ามิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์แล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิมาฟ้องขอให้รื้อถอน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยที่ ๒ มีที่ดินติดต่อกัน จำเลยที่ ๒ จ้างจำเลยที่ ๑ ปลูกตึกแถวในที่ดินของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ตอกเข็มและหล่อคอนกรี๖ชิดกำแพงตึกแถวและรั้วสังกสีของโจทก์ มิได้เว้นช่องว่างห่างที่ดินของโจทก์ ๕๐ ซ.ม. ตามเทศบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร และมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ โดยคำสั่งของจำเลยที่ ๒,๓ อนุมัติให้ทำ การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นเหตุให้ตึกแถวของโจทก์สั่นสะเทือน ตัวตึกเสื่อมคุณภาพอาจร้าวและทรุดได้ คิดค่าเสียหาร ๑๐,๐๐๐ บาท รั้วสังกะสีเสียหาย ๕๐๐ บาท ดินพังเสียหาย ๓๐๐ บาท ฐานกำแพงตึกกะเทาะเสียหาย ๑,๐๐๐ บาท ขอให้จำเลยที่ ๓ เพิกถอนอนุมัติการก่อสร้างและให้จำเลยที่ ๑-๒ งดการก่อสร้างพร้อมใช้ค่าเสียหาย
จำเลยที่ ๑, ๒ ให้การและเพิ่มเติมว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตึกแถวของโจทก์มิได้เสียหาย
สำหรับจำเลยที่ ๓ ศาลแพ่งสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า ไม่ใช่นิติบุคคลและโจทก์มิได้มุ่งฟ้อง พล.อ.มังกร พรหมโยธี เป็นจำเลย ให้ยก โจทก์จึงยื่อนคำร้องให้เรียกเทศบาลนครกรุงเทพฯ เป็นจำเลยในฐานเป็นผู้อนุญาต เทศบาลนครกรุงเทพฯ ให้การว่า การอนุญาตให้จำเลยที่ ๒ ปลูกสร้างอาคารเต็มเนื้อที่เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์ไม่เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยที่ ๑,๒ ทำรั้วสังกะสีของโจทก์ให้คืนสภาพเดิม หรือ ใช้ค่าเสียหาย ๕๐๐ บาท และให้ใช้ค่าเสียหายที่กะเทาะรากฐานกำแพงตึก ๕ บาท ค่าแพงถมดิน ๔๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยนอกนั้นยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้จำเลยที่ ๑,๒ ใช้ค่าเสียหายที่กะเทาะรากฐานกำแพงเป็นเงิน ๑๖๐ บาท โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน โดยวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๓ อนุมัติให้จำเลยที่ ๑,๒ ปลูกตึกแถวชิดตึกแถวและรั้วของโจทก์ไม่เว้นระยะ ๕๐ ซ.ม. โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์นัน หาใช่การอนุมัติให้จำเลยที่ ๑,๒ ทำละเมิดรุกล้ำโจทก์ไม่ การที่ไม่ได้เว้นช่องว่างไว้ ๕๐ ซ.ม. นั้นเป็นเรื่องของทางการเทศบาล โจทก์ยังไม่เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง และการที่จำเลยที่ ๑ จ้างจำเลยที่ ๒ ปลูกตึกแถวโดยได้รับอนุญาตจากเทศบาลนครกรุงเทพฯ จึงเป็นการทำไปโดยชอบ มิได้ละเมิดโจทก์ และโจทก์ก็ไม่มีสิทธิมาฟ้องให้รื้อถอนได้ อ้างฎีกาที่ ๒๐๐๕/๒๔๙ ระหว่าง นายจัตตูซิงค์ โจทก์ นางกีเงี้ยว แซ่ล้อ จำเลย.