แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยระบุเอกสารเป็นพยานเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น การที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยโดยมิได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นวินิจฉัยอีกเป็นพิเศษ ต้องแปลว่าศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อนี้แล้ว เพราะเมื่อพยานหลักฐานของจำเลยที่เกี่ยวกับประเด็นโดยตรงไม่พอฟังแล้ว พยานเอกสารอันไม่เกี่ยวกับประเด็น ก็ย่อมไม่สามารถช่วยคดีจำเลยซึ่งไม่มีน้ำหนักอยู่แล้ว ให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกได้
เรื่องอายุความเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่า และขับไล่จำเลยกับบริวาร
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เช่า แต่ได้ซื้อตึกพิพาทซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารและให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์รวม 2,510 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย และให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 200 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากห้องพิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาทให้จำเลยใช้ค่าเช่าที่ค้าง ค่าเสียหายในการต้องซ่อมห้องพิพาทให้สู้สภาพเดิม และค่าเช่าเดือนละ 30 บาทจนถึงวันฟ้องรวม 1,660 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายคือค่าเช่าเดือนละ 30 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องพิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ที่จำเลยขอระบุใบเสร็จรับเงินค่ารับเหมาห้องเลขที่ต่าง ๆ เป็นพยานเพิ่มเติม ก็ปรากฏว่าศาลชั้นต้นไม่อนุญาตโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น การที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยคำพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยโดยมิได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นวินิจฉัยอีกเป็นพิเศษ จึงต้องแปลว่าศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อนี้แล้ว เพราะเมื่อพยานหลักฐานของจำเลยที่เกี่ยวกับประเด็นโดยตรงไม่พอจะฟังหักล้างพยานหลักฐานที่จำเลยทำให้โจทก์ไว้แล้ว พยานเอกสารอันไม่เกี่ยวกับประเด็นก็ย่อมไม่สามารถช่วยคดีจำเลยซึ่งไม่มีน้ำหนักอยู่แล้วให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกได้
เรื่องอายุความ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 249 วรรค 1 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์