คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเอามีดพร้าวางบนคอผู้เสียหายแล้วเกิดการแย่งมีดกันทำให้บริเวณต้นคอด้านซ้ายของผู้เสียหายมีรอยถูกกระแทกด้วยของแข็งเป็นปื้นสีแดงและมีรอยถลอกเป็นเส้นยาว 3 นิ้วฟุต ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นบาดแผลถึงกับเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่าจำเลยได้ใช้มีดพร้าของกลางฟันทำร้ายผู้เสียหายหรือไม่ พิเคราะห์แล้วผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานผู้เดียวเบิกความว่าจำเลยฟันผู้เสียหาย 2 ครั้ง ครั้งแรกฟันถูกที่บริเวณท้ายทอยของผู้เสียหายและครั้งที่สองจำเลยยกมีดพร้าของกลางจะฟันซ้ำอีก แต่ผู้เสียหายยกมือขึ้นรับและแย่งเอามีดพร้าของกลางจากจำเลยไว้ได้ จำเลยจึงวิ่งหนีไป คำเบิกความของผู้เสียหายดังกล่าวแตกต่างกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นเรียกมาประกอบการพิจารณาของศาล โดยผู้เสียหายให้การว่าเมื่อจำเลยฟันผู้เสียหายครั้งแรกผู้เสียหายก็ยกมือขึ้นรับและแย่งเอามีดพร้าของกลางได้จากจำเลยทันที ทำให้มีดพร้าของกลางพลาดไปถูกผู้เสียหายที่บริเวณคอคำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่าจำเลยใช้มีดพร้าของกลางฟันผู้เสียหายจึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ข้อเท็จจริงน่าเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยว่าบาดแผลของผู้เสียหายตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องนั้นเกิดจากจำเลยเอามีดพร้าของกลางวางบนคอผู้เสียหาย แล้วเกิดการแย่งมีดกันขึ้นไม่ใช่เกิดจากจำเลยฟันผู้เสียหาย นอกจากนี้ตามทางนำสืบของโจทก์จำเลยปรากฏว่าจำเลยกับผู้เสียหายต่างรู้จักกันมาก่อนและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน จึงไม่มีเหตุผลที่จำเลยจะฟันทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับจากการกระทำของจำเลยซึ่งแพทย์ผู้ตรวจให้ความเห็นว่าที่บริเวณต้นคอด้านซ้ายมีรอยกระแทกด้วยของแข็งเป็นปื้นสีแดงและมีรอยถลอกเป็นเส้นยาว 3 นิ้วฟุต เท่านั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นบาดแผลถึงกับเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่ารูปคดีเป็นกรณีล้อเล่นตามอาการแห่งจิตที่ไม่ปกติของจำเลยดังปรากฏในขณะพิจารณาคดีนั้น เห็นว่าข้ออ้างดังกล่าวไม่ปรากฏในคำให้การต่อสู้คดีหรือในชั้นพิจารณาของศาลแต่อย่างใด ข้ออ้างของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 ให้ปรับ 500 บาท

Share