คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกและชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ ๑ เส้น และ เงินสดของ ส. ผู้เสียหายได้ความว่า เงินสดที่ถูกจำเลยกับพวกชิงไปนั้นไม่ใช่ของ ผู้เสียหายแต่เป็นของ จ. บิดาผู้เสียหาย เช่นนี้จึงจะ บังคับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินแทนเงินสด ดังกล่าวแก่ผู้เสียหาย ไม่ได้ แต่มีคำสั่งให้คืนหรือใช้แก่ จ. บิดา ผู้เสียหายได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกไ ปบนบ้านแล้วชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ ๑ เส้น ราคา ๔,๐๐๐ บาท กับเงินสดอีก ๑,๒๐๐ บาท รวมราคา ๕,๘๐๐ บาท ของนางสาวสมทรง ผู้เสียหาย ไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙, ๘๓ กับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๕,๘๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามฟ้อง จำคุก ๑๐ ปี และให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ ๕,๘๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นคนร้ายร่วมกับพวกชิงทรัพย์ ตามฟ้องไป แต่เงิน ๑,๘๐๐ บาทเป็นของนายจันทร์บิดาผู้เสียหาย
วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า
พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๕,๘๐๐ บาทนั้น ได้ความว่า สร้อยคอของผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ไปมีราคา ๔,๐๐๐ บาท ส่วนเงินสด ๑,๘๐๐ บาทเป็นของบิดาผู้เสียหายจึงบังคับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินแทนเงินสด แก่ผู้เสียหายด้วยไม่ได้ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๔,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนเงินสด ๑,๘๐๐ บาทนั้นให้คืนหรือใช้ราคาแก่นายจันทร์ บิดาผู้เสียหาย

Share