คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ซึ่งบรรยายเหตุการณ์แห่งข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำการซื้อข้าว เมื่อวันเดือนปีนั้น ต่อมาวันเดือนปีนั้นจำเลยได้ส่งอ้างหนังสือสัญญาซื้อข้าวต่อศาลซึ่งมีลายเซ็นชื่อโจทก์ในช่องผู้ซื้อ จำเลยทั้ง 2 ลงชื่อเป็นพะยาน โจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยทำปลอมขึ้นในวันเดือนปีใดเพิ่งมาทราบการทุจจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล ดังนี้ พอเข้าใจฟ้องได้แล้วว่า หาว่าจำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างวันที่โจทก์ซื้อข้าว ถึงวันที่จำเลยส่งอ้างต่อศาล ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องโดยกล่าวว่า เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๔๘๙ โจทก์ได้ซื้อข้าวเปลือกจากนายสุวรรณ ๒๕ เกวียน ๓๐ ถัง ได้ชำระเงินให้เสร็จแล้ว ต่อมาวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๙๐ จำเลยที่ ๑ ได้ฟ้องโจทก์หาว่าโจทก์ซื้อข้าวเปลือกไป ๒๕ เกวียน ๓๐ ถังยังมิได้ชำระราคา ครั้นวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๙๐ เวลากลางวัน จำเลยที่ ๑ ได้ส่งอ้างหนังสือสัญญา ๑ ฉบับต่อศาล มีใจความเรื่องซื้อข้าวเปลือก มีลายเซ็นชื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อ จำเลยที่ ๑,๒ ลงชื่อเป็นพะยาน สัญญาฉบับนี้จำเลยทั้ง ๒ ได้สมคบกันทำขึ้นในวันเดือนปีใดโจทก์ไม่ทราบ โจทก์ทราบการทุจจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นต้องกันว่า ฟ้องโจทก์มิได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาปลอมขึ้นเมื่อวันเดือนปีใด ไม่สมบูรณ์ตามมาตรา ๑๕๘(๕) พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องพอเข้าใจได้แล้วว่า จำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างตั้งแต่วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๔๘๙ ถึงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๙๐ ที่ฟ้องกล่าวดังนั้น หมายถึงว่าไม่ทราบวันทำในวันเดือนปีใด ในระหว่างวันเดือนปีดังกล่าวทั้งจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าฟ้องเคลือบคลุม
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริง ซึ่งยังมิได้วินิจฉัย และพิพากษาใหม่.

Share