คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ลูกหนี้ผู้ล้มละลายได้กู้เงินจากโจทก์แล้วนำไปให้สมาชิกของลูกหนี้กู้แล้วสมาชิกเอาเงินที่กู้ยืมมาจากลูกหนี้เอาไปให้ ล. กู้ยืมต่อ ล. จึงมิใช่ลูกหนี้ของลูกหนี้ผู้ล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจเรียกร้องให้ ล. ชำระเงินดังกล่าว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นางเล็กมิใช่ลูกหนี้ของลูกหนี้ ให้ยกคำร้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า นางเล็กเป็นลูกหนี้ของลูกหนี้ ต้องรับผิดต่อกองทรัพย์สินของลูกหนี้นั้น เห็นว่าตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใช้สิทธิเรียกร้องแก่บุคคลอื่นที่เป็นลูกหนี้ของผู้ล้มละลายโดยเฉพาะ เมื่อพิจารณาเอกสารที่โจทก์กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างและส่งเป็นพยานแล้ว ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1, ล.3 ถึง ล.16, จ.10 ฉบับลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 แผ่นที่ 6 ข้อ 13(3) และ จ.43 ว่าลูกหนี้ได้กู้เงินจากโจทก์ แล้วนำไปให้สมาชิกของลูกหนี้กู้ การกู้ยืมระหว่างลูกหนี้กับสมาชิกได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ต่อกัน จากนั้นสมาชิกเอาเงินที่กู้ยืมมาจากลูกหนี้เอาไปให้นางเล็กกู้ยืมต่อ ฉะนั้นนางเล็กจึงมิใช่ลูกหนี้ของลูกหนี้ผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจเรียกร้องให้นางเล็กชำระเงินดังกล่าว ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า เมื่อสมาชิกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของนางเล็กไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้อง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ควรรับช่วงสิทธิ หรือใช้สิทธิของสมาชิกเรียกร้องเอาเงินจากนางเล็กแทนสมาชิก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226 และ 233 นั้น เห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 7 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”

พิพากษายืน

Share