แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ที่แก้ไขแล้ว มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญาที่แก้ไขแล้ว มาตรา 138 ประกอบด้วยมาตรา 140 ให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 6 เดือน และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุกคนละ 6 เดือน ข้อหามีและพาอาวุธปืนนี้จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ส่วนข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานนั้น จำเลยทั้งสองให้การรับว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเห็นสมควรลดโทษให้ในข้อหานี้หนึ่งในสาม คงลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 3 เดือน และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุกคนละ 4 เดือน รวมจำคุกคนละ 1 ปี 1 เดือน ริบของกลาง ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่อีกฐานหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) ประกอบด้วยมาตรา 80 อันเป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 วรรคท้ายให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) ประกอบด้วยมาตรา 80ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต คำรับของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 33 ปี 4 เดือน รวมกับโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ที่ศาลชั้นต้นวางไว้แล้วเป็นให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 34 ปี 1 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา (อันดับ 81)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบของผู้ขอประกัน (อันดับ 77,76)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราวในระหว่างฎีกาตีราคาค่าประกันสามแสนบาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป
