คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่หลานฟ้องปู่เป็นคดีอุทลุมโดยอ้างเหตุว่าไม่มีอำนาจฟ้องยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีนั้นไม่ตัดสิทธิที่จะให้หลานขอให้พนักงานอัยการดำเนินคดีเป็นโจทก์แทน ฟ้องของอัยการโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นบิดานายจอน ๆ เป็นบิดานายประสิทธิ์ ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นน้องชายนายจอนแต่ต่างมารดากันนายประสิทธิ์มีสิทธิครอบครองที่ส่วนไม่มีโฉนด 1 แปลงราคา 4,000 บาท โดยได้รับมรดกจากนายจอนบิดา นายประสิทธิ์ไปยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานทะเบียนที่ดินจังหวัดสิงห์บุรีไปทำการรังวัดที่ดินมรดกดังกล่าวเพื่อออกโฉนด เมื่อเจ้าพนักงานออกไปทำการรังวัด จำเลยที่ 1 ขัดขวางไม่ยอมให้ทำการรังวัดอ้างว่าเป็นที่ดินของจำเลยที่ 1 นายประสิทธิ์ไปดูหลักฐานทางทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่อำเภอพรหมบุรี ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนยกที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม 96 ซึ่งจำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิจะยกให้จำเลยที่ 1 ได้ จึงขอให้เพิกถอนการโอนและห้ามจำเลยที่ 1 กับบริวารเกี่ยวข้องในที่ดิน

จำเลยให้การว่าจำเลยที่ 2 เป็นบิดานายจอน ๆ เป็นบิดานายประสิทธิ์ ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นน้องชายนายจอนแต่ต่างมารดากันจริง ที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ๆ จึงโอนยกให้จำเลยที่ 1 โจทก์ไม่มีสิทธิจะขอให้เพิกถอนการโอนได้ และค้านว่านายประสิทธิ์ได้เคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดสิงห์บุรีตามสำนวนคดีแพ่งเลขแดงที่ 27/2497 ศาลพิพากษายกฟ้องนายประสิทธิ์ ๆ ไม่มีอำนาจขอให้พนักงานอัยการฟ้องจำเลยที่ 1-2 ได้อีกต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ซึ่งมิใช่เป็นบุพพการีของนายประสิทธิ์ศาลสอบถามจำเลยที่ 1 คัดค้านโดยขอให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเป็นการฟ้องซ้ำ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ได้ แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเพราะจะพิจารณาคดีนี้ไปก็ต้องมีจำเลยที่ 1 เข้ามาในคดีด้วย จึงจะเกิดผลเมื่อมีคำพิพากษาอาศัยอำนาจตามความใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 ข้อ 3(ข) ให้หมายเรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยในคดีนี้ด้วย

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องเพราะอัยการไม่มีอำนาจฟ้องและเป็นเรื่องฟ้องซ้ำ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาปรึกษาคดีนี้แล้วเห็นว่าการที่โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 คัดค้านไม่ยอมให้ถอน ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้หาเป็นการผิด กฎหมายส่วนเรื่องฟ้องซ้ำก็ได้ความว่าคดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องนายประสิทธิ์โดยอ้างเหตุว่าไม่มีอำนาจฟ้องยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี จึงไม่ตัดสิทธิที่นายประสิทธิ์จะขอให้พนักงานอัยการดำเนินคดีเป็นโจทก์แทน ฟ้องของโจทก์คดีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของจำเลยที่ 1โดยพิพากษายืน

Share