แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปราฏว่าคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาหลังที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินให้รัฐธรรมนูญซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นสิ้นสุดลง และให้รัฐสภาสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้ง ๒ ปรากฏว่านายชุมพล อรุณยะเดช ได้รับการเลือกตั้งผู้ร้องเห็นว่าการที่นายชุมพลได้รับเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ เพราะเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ มาตรา ๑๑๘(๔) เนื่องจากต้องคำพิพากษาของศาล ฯลฯ ขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เฉพาะนายชุมพล
นายชุมพลผู้คัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ ๑ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษผู้คัดค้านที่ ๒ ยื่นคัดค้านว่าผู้คัดค้านทำไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ขอให้ยกคำร้อง
คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกัน ศาลชั้นต้นจึงให้งดการไต่สวน และทำความเห็นพร้อมส่งสำนวนมาศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย
ศาลฎีกาวินิจฉัยปรากฏว่าคดีนี้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาภายหลังที่คณะปฏิรูปการประเทศตั้งแต่วันที่ ๑๘.๐๐ นาฬิกา วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นต้นไป และได้มีคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๑ ให้รัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ สิ้นสุดลง และข้อ ๒ ให้รัฐสภาและคณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี