คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864/2548

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างอาคารโดยทำสัญญาที่จังหวัดเชียงใหม่ และจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทมอบให้โจทก์ตามมูลหนี้ค่าก่อสร้างเกี่ยวกับสัญญาจ้างดังกล่าว ถือว่ามูลหนี้ตามเช็คเกิดจากสัญญาจ้างซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิที่ทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้อง มูลหนี้จึงเกิดขึ้นในเขตศาลจังหวัดเชียงใหม่ โจทก์มีอำนาจฟ้องที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2535 จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาท่าอากาศยาน ในท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ลงวันที่สั่งจ่าย 15 กรกฎาคม 2536 จำนวนเงิน 2,693,970 บาท มอบให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ค่าก่อสร้าง จำเลยขอให้โจทก์นำไปขึ้นเงินกลางเดือนสิงหาคม 2536 ถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2536 โดยให้เหตุผลว่า “โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย” โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แต่จำเลยเพิกเฉย จำเลยต้องชำระเงินตามเช็คจำนวน 2,693,970 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 10 เดือน คิดเป็นดอกเบี้ย 168,373.12 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,862,343.10 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 2,862,343.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงิน 2,693,970 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่เคยเป็นหนี้ค่าก่อสร้างโจทก์และไม่เคยว่าจ้างให้โจทก์ก่อสร้างอาคารใดๆ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับห้างหุ้นส่วนจำกัดทองม้วนโภคทรัพย์ที่ทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์ ต่อมาโจทก์ขอให้จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อค้ำประกันหนี้ค่าก่อสร้างไว้ก่อน โดยตกลงว่า เมื่อโจทก์กับห้างหุ้นส่วนจำกัดทองม้วนโภคทรัพย์ตกลงในเรื่องหนี้กันได้แล้วโจทก์จะส่งมอบเช็คพิพาทคืนแก่จำเลย จำเลยไม่เคยได้รับการทวงถามจากโจทก์ และจำนวนหนี้ที่โจทก์ฟ้องไม่ถูกต้อง เนื่องจากห้างหุ้นส่วนจำกัดทองม้วนโภคทรัพย์ได้ชำระหนี้บางส่วนและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,693,970 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้หรือไม่ ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่า โจทก์และห้างหุ้นส่วนจำกัดทองม้วนโภคทรัพย์ได้ทำสัญญาจ้างแรงงานเอกสารหมาย จ.3 เพื่อว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างอาคารบุญมาศแมนชั่น โดยทำสัญญาและก่อสร้างอาคารดังกล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ และจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทมอบให้โจทก์ตามมูลหนี้ค่าก่อสร้างเกี่ยวกับสัญญาจ้างแรงงานเอกสารหมาย จ.3 ถือว่ามูลหนี้ตามเช็คเกิดจากสัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิที่ทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้อง มูลหนี้จึงเกิดขึ้นในเขตศาลจังหวัดเชียงใหม่ โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 (1) ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share