แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วันสุดท้ายที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างนั้นตรงกับวันเสาร์และวันถัดมาเป็นวันอาทิตย์อันเป็นวันหยุดราชการตามปกติทั้งสองวันจำเลยจึงขอปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความต่อโจทก์ในวันแรกที่ทางราชการเปิดทำการได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความว่า โจทก์ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมบ้านให้จำเลย โดยจำเลยยินยอมจ่ายค่าที่ดินกับสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์เป็นเงิน 735,000 บาท ภายในวันที่ 30 มกราคม 2536 อันเป็นวันโอนกรรมสิทธิ์ คดีถึงที่สุด ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2536 จำเลยได้ไปขอรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร โดยนำแคชเชียร์เช็คของธนาคารจำนวน 645,000 บาท พร้อมด้วยเช็คเงินสดลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2536 อีกจำนวน 90,000 บาทไปชำระหนี้แก่โจทก์แต่โจทก์ไม่ยอมรับเช็คเงินสดและไม่ยอมโอนที่ดินและบ้านพิพาทให้ ขอให้มีคำสั่งเรียกโจทก์มาสอบถามศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ก่อนถึงวันนัด โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี เพราะจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม
ในวันนัดพร้อมโจทก์แถลงว่าจำเลยนำเช็คเงินสด 1 ฉบับไปชำระโจทก์แจ้งให้จำเลยไปเปลี่ยนเป็นแคชเชียร์เช็คมาแทนแต่จำเลยไม่มาติดต่อ จำเลยแถลงว่าในวันนั้นเป็นเวลาเย็นแล้วไม่สามารถไปเปลี่ยนเช็คได้ทัน โจทก์แถลงยืนยันไม่โอนที่ดินกับบ้านพิพาทให้แก่จำเลย ขอให้บังคับคดีไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ยกคำขอโจทก์ ให้โจทก์รับชำระราคาและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามคำพิพากษาตามยอมแก่จำเลย
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการออกหมายบังคับคดีให้โจทก์
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันที่ 30 มกราคม 2536 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นตรงกับวันเสาร์และวันที่ 31 มกราคม 2536 เป็นวันอาทิตย์ อันเป็นวันหยุดราชการตามปกติทั้งสองวันจำเลยจึงขอปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความต่อโจทก์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2536 ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางราชการเปิดทำการได้ เมื่อปรากฏว่าในวันดังกล่าวโจทก์จำเลยได้ไปยังสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เพื่อจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกันนั้นจำเลยมีแคชเชียร์เช็คของธนาคารสั่งจ่ายเงินจำนวน645,000 บาท พร้อมที่จะชำระให้แก่โจทก์ ส่วนที่ยังขาดอีกจำนวน90,000 บาท จำเลยก็สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดให้ เหตุขัดข้องเกิดเพราะโจทก์ไม่ยอมรับเช็คเงินสดของจำเลยซึ่งก็สั่งจ่ายเงินเพียง 90,000 บาท เท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับเช็คเงินสดและแจ้งให้จำเลยเปลี่ยนเป็นแคชเชียร์เช็คตามที่แถลงต่อศาลในวันนัดพร้อมก็ปรากฏว่าโจทก์แจ้งเหตุขัดข้องในการโอนที่ดินโดยทำบันทึกต่อเจ้าพนักงานที่ดินลงรับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2536 เวลา15.50 นาฬิกา ข้ออ้างของจำเลยที่แถลงต่อศาลในวันนัดพร้อมวันที่ 25 มีนาคม 2536 ที่ว่า ไม่สามารถไปเปลี่ยนเช็คทัน เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ ฉะนั้นตามพฤติการณ์ดังกล่าวมาจึงยังถือไม่ได้ว่า จำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความต่อโจทก์
พิพากษากลับ ให้ บังคับคดี ไป ตาม คำสั่งศาล ชั้นต้น