คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยแถลงว่าตนไม่ติดใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสีย แล้วโจทก์จะมาอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา แล้วให้ดำเนินคดีต่อไป ดังนี้หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายฐานละเมิด
จำเลยที่ ๑,๒ ให้การปฏิเสธความรับผิด ส่วนจำเลยที่ ๑ศาลสั่งจำหน่ายคดี คงดำเนินคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑,๒ โดยนักสืบพยานโจทก์ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ทนายโจทก์และพยานโจทก์ไม่มาศาล คงมาแต่ทนายจำเลย ทนายจำเลยขอให้ศาลจำหน่ายคดีโดยไม่ติดใจให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไป ศาลเห็นว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด ถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา จึงให้จำหน่ายคดีเสีย
รุ่งขึ้น ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าป่วยไม่อาจมาว่าความและอื่นคำร้องขอเลื่อนในวันนัดได้
ศาลสั่งว่า ได้จำหน่ายคดีไปแล้ว ไม่อาจเลื่อนคดีได้ตามขอ ให้ยกคำร้อง
รุ่งขึ้น โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ อ้างเหตุว่าทนายโจทก์ป่วย ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่มาศาล ศาลสั่งว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๐๑ ห้ามมิให้พิจารณาใหม่ จึงให้ยกคำร้อง รุ่งขึ้น โจทก์ยื่นคำร้องอ้างเหตุถึงการที่ทนายโจทก์ไม่ได้มาศาลในวันนัดเพราะป่วยโดยกระทันหัน และบรรยายเหตุให้เห็นว่ามิได้จงใจหลีกเลี่ยงไม่มาศาลถือไม่ได้ว่าขาดนัดพิจารณาตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา ให้ดำเนินคดีต่อไปแล้ว พิพากษาชี้ขาดตามรูปคดี ศาลก็สั่งยกคำร้องอีก
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะการอุทธรณ์คำสั่งในคำร้องฉบับสุดท้าย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้สั่งศาลชั้นต้นไต่สวนสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา ให้ดำเนินคดีต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฝ่ายโจทก์ได้ทราบนัดแล้วไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๙๗ วรรค ๒ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่ง เมื่อเป็นเรื่องโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว ก็ต้องพิเคราะห์มาตรา ๒๐๑ ต่อไปว่า โจทก์จะมีสิทธิยกเอาเหตุที่ว่าไม่จงใจขาดนัดมาอ้างได้หรือไม่ ปรากฎว่าคดีนี้ เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว จำเลยมิได้ขอให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียตามความในวรรค ๑ ผลแห่งคำสั่งนี้ก็มีดังทีบัญญัติไว้ในวรรค+กันนี้ว่า ห้ามมิให้โจทก์อุทธรณ์คำสั่งเช่นว่านี้ หรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ทั้งนี้ โดยมิได้บัญญัติข้อยกเว้นให้อ้างความไม่จงใจขาดนัดขึ้นแก้ตัวอย่างในกรณีอื่นในหมวดเดียวกันนี้เลย +ของโจทก์ก็คือ ขอให้พิจารณาคดีใหม่นั่นเอง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว ถึง+อ้างเหตุว่าไม่ได้จงใจขาดนัดก็ตาม
พิพากษายืน

Share