แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
สถานสงเคราะห์คนชรา ฉ. มิได้เป็นนิติบุคคล แต่สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด น. การที่ผู้ตายทำพินัยกรรมระบุให้ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชรา ฉ. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย เป็นการแต่งตั้งบุคคลธรรมดามีตำแหน่งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ให้เป็นผู้จัดการมรดกไม่ใช่เป็นการแต่งตั้งสถานสงเคราะห์แต่อย่างใดเมื่อผู้ร้องซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชรา ฉ. ในภายหลังได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย แต่การแต่งตั้งผู้ร้องหามีผลสมบูรณ์โดยเด็ดขาดไม่ เพราะผู้คัดค้านได้คัดค้านว่าพินัยกรรมปลอม กรณีมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตายแล้ว ทั้งผู้คัดค้านยังขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายด้วย ศาลชั้นต้นจะสั่งงดไต่สวนแล้วสั่งยกคำร้องขอของผู้ร้องไม่ได้ แต่ต้องไต่สวนคำร้องขอของผู้ร้องกับผู้คัดค้าน และมีคำสั่งตามรูปคดีต่อไป
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอและแก้ไขคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) สังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครปฐม ซึ่งนางสาวไพบูลย์ ผู้ตาย ได้เข้ารับการสงเคราะห์ นางสาวไพบูลย์ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2547 ด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลว ก่อนถึงแก่ความตายผู้ตายมีทรัพย์มรดกคือเงินฝากที่สถานสงเคราะห์คนชรา 674,616.29 บาท และผู้ตายทำพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2544 ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แต่มีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตายโดยบิดามารดาและพี่น้องคนอื่นถึงแก่ความตายไปก่อนผู้ตาย ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมตามคำร้องเพราะมิใช่ลายมือชื่อของผู้ตายจึงเป็นพินัยกรรมปลอม ผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตายและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมาย ขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นสอบถามผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องแถลงว่า สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดไต่สวนแล้วสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอของผู้ร้องและผู้คัดค้านต่อไปแล้วมีคำสั่งตามรูปคดี
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่า สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแต่สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม มีอำนาจแต่งตั้งบุคคลธรรมดาบุคคลใดบุคคลหนึ่งให้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ดังกล่าวได้ และผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปภัมภ์) ก่อนตายเจ้ามรดกอยู่ในการสงเคราะห์ของสถานสงเคราะห์ดังกล่าวและผู้ตายได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามพินัยกรรม (หนังสือมอบทรัพย์สิน) มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามที่กำหนดไว้ในพินัยกรรมหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1712 บัญญัติว่า ผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมอาจตั้งขึ้นได้ (1) โดยผู้ทำพินัยกรรมเอง (2) โดยบุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรมให้เป็นผู้ตั้ง คดีนี้ผู้ตายทำพินัยกรรมระบุไว้ว่า เมื่อข้าพเจ้านางสาวไพบูลย์เสียชีวิตลงข้าพเจ้าขอมอบให้ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปภัมภ์) เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า แม้ผู้ร้องจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ในภายหลังผู้ตายทำพินัยกรรม แต่ผู้ตายก็ถึงแก่ความตายหลังจากผู้ร้องได้รับการแต่งตั้งแล้ว และเป็นการแต่งตั้งผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา มีตำแหน่งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโดยพินัยกรรม ไม่ใช่เป็นการแต่งตั้งสถานสงเคราะห์ซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลให้เป็นผู้จัดการมรดกแต่อย่างใดและการตั้งผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมกรณีนี้หามีผลสมบูรณ์โดยเด็ดขาดไม่เพราะผู้คัดค้านไว้ได้คัดค้านว่า ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมไม่ใช่ลายมือชื่อของผู้ตาย จึงเป็นพินัยกรรมปลอม กรณีมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตายแล้ว ดังนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของผู้ตาย จึงต้องมายื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคสอง นอกจากนี้ผู้คัดค้านยังขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ด้วย ประเด็นเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านยังไม่ได้รับการวินิจฉัย คำคัดค้านของผู้คัดค้านหาตกไปไม่ ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนต่อไป แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน