แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของสามยทรัพย์ ไม่ใช่เจ้าของรวมในภารยทรัพย์ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องในคดีอาญา ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ภารยทรัพย์เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจาก พ. ในวันซื้อขาย พ. ได้จดทะเบียนที่ดินของ พ. อันเป็นทางราดซิเมนต์ ซึ่งอยู่ติดต่อกับที่ดินที่โจทก์ซื้อ ให้ตกเป็นภาระจำยอมสำหรับที่ดินของโจทก์ ที่ซื้อจาก พ. แล้วจำเลยกับพวกร่วมกันทำลายทางราดซิเมนต์อันเป็นภารยทรัพย์จนเสียหาย ใช้เป็นทางเดินตามปกติไม่ได้ ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๘๓, ๘๔
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายแล้วพิพากษายืน
่โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยที่ ๑ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินภารยทรัพย์จะต้องยอมรับกรรมบางอย่าง หรืองดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๗, ๑๓๙๐ และ ๑๓๙๑ แต่การที่ต้องยอมรับกรรมบางอย่าง หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างในภารยทรัพย์นั้น หาได้ทำให้เจ้าของสามยทรัพย์มีฐานะเป็นเจ้าของรวมในภารยทรัพย์ไปด้วยไม่ เมื่อถนนในที่ดินภารยทรัพย์ไม่ใช่ของโจทก์และโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องในคดีอาญา ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ภารยทรัพย์เสียหาย
พิพากษายืน