คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ของนายจ้างไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง และได้รับอนุญาตให้ใช้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขับกลับบ้านด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วขับรถกลับบ้านจึงเกิดเหตุ แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ 20 นาฬิกาซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานตามปกติ แต่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ 1 ขับรถกลับบ้านจึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้เพื่อจะนำรถดังกล่าวขับกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้น จึงต้องถือว่าอยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของนายจ้าง ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่เฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ขับรถจักรยานยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนรถจักรยานยนต์ที่นายมุ่ยกวงขับมา เป็นเหตุให้นายมุ่ยกวงถึงแก่ความตาย โจทก์เป็นมารดานายมุ่ยกวง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 69,835 บาท กับดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3และไม่ได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ค่าเสียหายไม่มากดังฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน53,495 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ยกฟ้องของโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ที่ 3

โจทก์อุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 แต่มิได้กระทำไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 และวินิจฉัยปัญหาที่ว่าจำเลยที่ 1 กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หรือไม่ว่าจำเลยที่ 1 ทำงานเป็นลูกจ้างในร้านของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง รถจักรยานยนต์เป็นของจำเลยที่ 2 น้องชายของจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 2 ในการดูแลกิจการของร้านได้อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ใช้รถดังกล่าวขับกลับบ้านได้ด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วจึงขับรถกลับบ้านเพื่อจะเอารถไปเก็บจึงเกิดเหตุขึ้น แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานตามปกติ แต่จำเลยที่ 1ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ 1ขับรถกลับบ้านจึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำรถนั้นกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง จึงต้องถือว่าอยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่เฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น ยังต้องคำนึงถึงเหตุอื่นประกอบด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1

Share