คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลผู้เสมือนไร้ความสามารถนั้นทำนิติกรรมเองได้สิ่งทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นแต่จะต้องด้วยข้อจำกัดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 35 ซึ่งผู้เสมือนไร้ความสามารถจะทำได้เฉพาะเมื่อผู้พิทักษ์ให้ความยินยอมเท่านั้น ผู้พิทักษ์มีอำนาจหน้าที่เพียงแต่ให้ความยินยอมหรือไม่แก่ผู้เสมือนไร้ความสามารถในกิจการที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่มีบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ให้อำนาจผู้พิทักษ์ฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถมีนางสนิทเป็นผู้พิทักษ์ตามคำสั่งศาล ขอแบ่งมรดกของบิดาตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องออกเป็นสี่ส่วน ให้โจทก์ได้หนึ่งส่วน

จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทรัพย์บางรายการเป็นของจำเลยทั้งสอง บางรายการไม่เหลืออยู่แล้ว บางรายการไม่ทราบว่าเหลืออยู่ ทั้งคดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งโรงเรียนผ่องเพ็ญวิทยาดอนเมืองและบ้านเลขที่ 18/30 ในบริเวณโรงเรียน เงินค่าทดแทนอัคคีภัยสำหรับทรัพย์อันดับ 2 จำนวน 300,000 บาท และเงินที่ได้จากการขายทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์อันดับ 3 จำนวน 120,000 บาท ออกเป็น 5 ส่วนเท่า ๆ กัน ให้โจทก์ 1 ส่วน หากแบ่งไม่ได้ให้ประมูลกันเองหรือขายทอดตลาดแล้วแบ่งกันตามส่วน ทั้งนี้ให้แบ่งทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสินสมรสระหว่างนางยุพินกับเจ้ามรดกก่อน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าปรากฏตามสำนวนว่า นางสนิทผู้พิทักษ์ลงชื่อเป็นผู้แต่งทนายความ และทนายความลงชื่อในฟ้อง จึงเป็นกรณีที่ผู้พิทักษ์ฟ้องคดีแทนโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลผู้เสมือนไร้ความสามารถ ศาลฎีกาเห็นว่าบุคคลผู้เสมือนไร้ความสามารถนั้นทำนิติกรรมเองได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นแต่จะต้องด้วยข้อจำกัดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 35 ซึ่งผู้เสมือนไร้ความสามารถจะทำได้เฉพาะเมื่อผู้พิทักษ์ให้ความยินยอมเท่านั้น ผู้พิทักษ์มีอำนาจหน้าที่เพียงแต่ให้ความยินยอมหรือไม่แก่ผู้เสมือนไร้ความสามารถในกิจการที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่มีบทบัญญัติใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ให้อำนาจผู้พิทักษ์ฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้คดี ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) เมื่อผู้พิทักษ์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนโจทก์เสียแล้วก็ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในผลแห่งคดีที่ให้ยกฟ้องโจทก์

พิพากษายืน

Share