คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ม. สมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นกรณีที่ ม. สมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงถูก ม. ถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการทำละเมิดต่อ ม. จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้ ม. ถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภรรยาของนายมนัส มีบุตรด้วยกัน 3 คน นายมนัสถูกจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้อาวุธปืนกับมีด ยิง ตี และฟันถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฯลฯ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน 414,000 บาท ให้แก่โจทก์

จำเลยทั้งสามให้การว่า นายมนัสเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 1 กับพวก จำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต สำหรับคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ที่ 2คู่ความตกลงกันว่า นายมนัสผู้ตายฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายตามรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วในคดีส่วนอาญา ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดว่าเมื่อเป็นกรณีสมัครใจเข้าวิวาทกันจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ความเสียหายของโจทก์ให้คิดเป็นเงินรวม 100,000 บาท ในกรณีที่จำเลยต้องรับผิด ถ้าศาลเห็นว่าไม่ควรรับผิดเต็มจำนวน ก็ให้นำพยานหลักฐานทั้งหลายที่ปรากฏในคดีส่วนอาญามาพิจารณาว่าตามพฤติการณ์ จำเลยควรต้องรับผิดเป็นร้อยละเท่าใด ฯ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ทุกคนร่วมกันเป็นจำนวน 65,000 บาท ฯ

จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 50,000 บาทแก่โจทก์ ฯ

โจทก์กับจำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายมนัสฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกันโดยต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน ผลการต่อสู้นายมนัสถูกกระสุนปืนของจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายมนัส จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้อ้างว่านายมนัสถึงแก่ความตายจากการกระทำละเมิดของจำเลยทั้งสอง และวินิจฉัยว่าการที่นายมนัสสมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 นี้ เป็นกรณีที่นายมนัสสมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 การที่จำเลยที่ 1 ยิงถูกนายมนัสถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการทำละเมิดต่อนายมนัส จำเลยที่ 1 ที่ 2ไม่จำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้นายมนัสถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด

พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share