แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้ง น., ส. และ สมเป็นผู้จัดการมรดกระหว่างจัดการมรดกศาลนัดพร้อมผู้จัดการมรดกมาพร้อมกัน ผู้จัดการมรดกแถลงร่วมกันว่า ว.,ธ.,และช. ขอซื้อที่นามรดกราคาไร่ละ 3,350 บาท ผู้จัดการมรดกเห็นชอบและตกลงขายศาลชั้นต้นให้รับเงินค่าที่นา 25%ไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันนั้น สม ยื่นคำร้องขอซื้อที่นามรดกในราคาไร่ละ 3,500 บาท ศาลชั้นต้นสั่งใหม่อนุญาตขายให้สมและคืนเงินให้ ว. กับพวกเช่นนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723 การจัดการมรดกตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดก จะให้ผู้ใดทำแทนไม่ได้ เว้นแต่จะมีอำนาจทำได้โดยพินัยกรรมและอื่น ๆ (มาตรา 1723 ตอนท้าย) กรณีที่จะขายนามรดกให้กับบุคคลใดย่อมเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการมรดก เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะกระทำเอง มิใช่เป็นอำนาจของศาล ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไป จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว (ศาลสูงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนายนพ นางสวิง และนายสมนึกเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ระหว่างจัดการมรดก ศาลชั้นต้นได้สั่งนัดพร้อมผู้จัดการมรดก ในวันนัดผู้จัดการมรดกทั้งสามแถลงร่วมกันว่า นายวินิจนายธาดา และเรืออากาศโทชาลีขอเสนอซื้อที่นามรดกราคาไร่ละ 3,350บาท ผู้จัดการมรดกทั้งสามเห็นชอบและตกลงขายให้แก่นายวินิจกับพวกศาลให้รับเงินค่าที่นา 25% ไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกัน นายสมนึกยื่นคำร้องขอเสนอซื้อที่นามรดกในราคาไร่ละ 3,500 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่อนุญาตให้นายสมนึกเป็นผู้ซื้อได้ และรับเงินค่าที่นาบางส่วนไว้ ต่อมาเมื่อรับเงินค่าที่นาที่ยังค้างจากนายวินิจกับพวกแล้ว ศาลสั่งให้คืนเงินให้แก่นายวินิจกับพวก และสั่งยืนยันให้ขายนาให้แก่นายสมนึก กับให้ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินโอนที่นามรดกให้แก่นายสมนึก
เรืออากศโทชาลีอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งขายนาให้แก่นายสมนึก ส่วนคำขอให้โอนที่นามรดกแก่นายวินิจกับพวกให้ยก
เรืออากาศโทชาลีฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723 บัญญัติไว้ว่า “ผู้จัดการมรดกต้องจัดการโดยตนเอง เว้นแต่จะทำการโดยตัวแทนได้ตามอำนาจที่ให้ไว้ชัดแจ้ง หรือโดยปริยายในพินัยกรรมหรือโดยคำสั่งศาลหรือในพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดก” ตามบทบัญญัติมาตรานี้เป็นที่เห็นได้ว่า การจัดการมรดกตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดกจะต้องทำเองจะให้ผู้ใดทำแทนไม่ได้การจัดการมรดกเว้นแต่จะมีอำนาจทำได้โดยอาศัยพินัยกรรม คำสั่งศาลหรือพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดก จึงเป็นอำนาจและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกโดยเฉพาะ มิใช่เป็นเรื่องอยู่ในข่ายที่ศาลจะส่ง กรณีที่จะขายนามรดกให้กับบุคคลใดย่อมเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการมรดกเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะกระทำเอง มิใช่เป็นอำนาจของศาล ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไป จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว
พิพากษายืน