แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีงดการขายทอดตลาดครั้งที่ 5 ซึ่งมีผู้ให้ราคาสูงสุดถึง 2,200,000 บาทนั้น เนื่องจากเป็นความประสงค์ของจำเลยเองที่ขอให้งดการขายไว้ และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้พยายามขายทรัพย์อีกถึง 5 ครั้ง จนในที่สุดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเพียง 2,000,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงตกลงขายให้ เช่นนี้ ถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้พยายามขายทรัพย์ให้ได้ราคาสูงสุดในเวลาที่เหมาะสมแล้ว และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตหรือมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าด้วยวิธีการขายทอดตลาดแต่อย่างใด จำเลยย่อมไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและประกาศขายทอดตลาดใหม่ได้อีก ข้ออ้างของจำเลยที่ว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบนั้น ไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยชอบได้.
ย่อยาว
มูลกรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงิน ๒,๓๗๑,๔๙๙.๓๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งแก่โจทก์ หากผิดนัดให้โจทก์บังคับจำนองเอาที่ดินจำนองตามฟ้องออกขายทอดตลาด และในการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๙ เจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายแก่โจทก์ในฐานะผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบด้วยหลักกฎหมาย หลักปฏิบัติและหลักแห่งความยุติธรรม ทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบ ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและประกาศขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ปรากฏว่าเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์เป็นครั้งที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม๒๕๒๘ มีผู้สนใจเข้าสู้ราคาปรากฏตามคำร้องของจำเลยลงวันที่๑๔ เมษายน ๒๕๒๙ รับว่า การขายทอดตลาดในครั้งนี้มีผู้ประมูลหรือสู้ราคาถึง ๒,๒๐๐,๐๐๐ บาท เห็นว่า เหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ขายทรัพย์ให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดในครั้งนั้น เพราะจำเลยแถลงขอให้งดการขายไว้เนื่องจากราคาสูงสุดที่ให้ยังต่ำไปเช่นนี้ เห็นว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติโดยมิชอบแต่ประการใด แต่เป็นความประสงค์ของจำเลยที่ขอให้งดการขายไว้ ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ยอมงดการขายให้ ปรากฏว่าได้มีการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้มาตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๒๗ และมีการเลื่อนการขายมาเกือบ ๑๐ ครั้งแล้วแม้ว่าการขายครั้งที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๘ มีผู้ให้ราคาสูงสุดถึง ๒,๒๐๐,๐๐๐ บาท ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของจำเลย ซึ่งจำเลยก็ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการขายไว้ และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้พยายามขายทรัพย์อีกถึง ๕ ครั้ง ในที่สุดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเพียง ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ตกลงขายให้ เช่นนี้ ถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้พยายามขายทรัพย์ให้ได้ราคาสูงสุดในเวลาที่เหมาะสมแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๙ โดยไม่สุจริตหรือดำเนินการขายทอดตลาดโดยมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าด้วยวิธีการขายทอดตลาดแต่อย่างใด ฉะนั้น จำเลยย่อมไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและประกาศขายทอดตลาดใหม่ได้อีก ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบนั้น ไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยชอบได้
พิพากษายืน.