คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างได้ขับรถยนต์ของนายจ้างตามทางการที่จ้าง ตอนขากลับลูกจ้างได้นำรถกลับไปบ้านแล้วจะนำไปเก็บยังโรงรถของนายจ้าง ระหว่างนั้นรถได้ชนกับรถของผู้อื่นเสียหายดังนี้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย เพราะการที่ลูกจ้างจะขับรถไปทางไหนย่อมอยู่ในความคิดของลูกจ้างอันเป็นการสะดวกและเหมาะสม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เป็นคนขับรถของจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้าง ได้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า เหตุที่รถจำเลยชนรถของโจทก์เสียหายเพราะเหตุสุดวิสัย จำเลยที่ ๑ไม่ได้ปฏิบัติในหน้าที่การงานของจำเลยที่ ๒
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยร่วมกับใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า วันเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ได้นำรถบันทุกอิฐจากหน้าวัดมงกุฎมายังโรงงานมักกะสัน ขนอิฐแล้วก็ไปส่งคนงานตามที่เคยปฏิบัติ ส่งคนงานแล้วจำเลยที่ ๑ ได้ขับรถไปเอาเงินที่บ้านที่สพานแดง บางซื่อ เสร็จแล้ว ขับรถมาทางสพานควายเพื่อนำรถไปเก็บโรงรถมักกะสัน ศาลฎีกาถือว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดร่วม การที่จำเลยที่ ๑ จะขับรถไปทางไหนย่อมอยู่ในความคิดของจำเลยที่ ๑ อันเป็นการสะดวกและเหมาะสม จำเลยที่ ๑ เลือกเอาทางถนนพหลโยธิน ก็นับว่าเป็นทางเดียวที่จะไปมักกะสันได้ ต้องถือว่าจำเลยที่ ๑ ขับรถอยู่ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ๆ จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
พิพากษายืน

Share