คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงฟังว่าโจทก์และบุคคลอื่นรวมประมาณ 40 คน อาศัยทางพิพาทเดินจากที่อาศัยซึ่งอยู่ด้านในออกไปสู่ซอยมิตรคามซึ่งเป็นทางสาธารณะมาประมาณ 40 ปี โดยไม่มีทางอื่น เช่นนี้ ถือว่าทางพิพาทเป็นภาระจำยอม เช่นนี้โจทก์ไม่จำต้องชดใช้ค่าใช้ทางเดินตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 1349 ให้แก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเดิมขุนปราบพลเรียบถือกรรมสิทธิ์ที่ชอบมิตรคาม บริเวณบ้านญวนสามเสน จังหวัดพระนคร เนื้อที่ประมาณ ๑๓๒ ตารางวา ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องในบริเวณ ก.ข.จ.ฉ. ขุนปราบพลเรียบปลูกเรือนอยู่และได้เปิดทางเดินจากริมคลองบ้านญวนมาสู่ซอยมิครคามกว้าง ๑ เมตร ๕๐ ซ.ม. ขุนปราบพลเรียบได้อนุญาตให้บุคคลที่ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินฝั่งทางเดิน จ.ฉ. และประชาชนสัญจรไปมาในทางดังกล่าวมา ๔๐ ปีเศษ เป็นทางสาธารณะตามกฎหมาย นอกจากเป็นทางสาธารณะแล้ว บุคคลที่มีบ้านเรือนตามแผนที่หมาย จ.ฉ.ได้ใช้เดินเข้าออกมากว่า ๑๖ ปี เป็นทางภาระจำยอม ทั้งไม่มีทางอื่นจะออกสู่ซอยมิตรคามเพราะตกอยู่ในที่ล้อม ไม่มีทางออก อยู่ในลักษณะจำเป็นที่จะต้องใช้ทางนี้เดินเข้าสู่ซอยมิตรคามด้วย จำเลยเป็นผู้รับโอนบ้านเรือนจากขุนปราบพลเรียบ และเอาไม้ปิดทางเสีย เหลือไว้เพียง ๖๐ ซ.ม. โดยไม่มีอำนาจทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จึงมาฟ้องขอให้ศษลสั่งว่าทางดังกล่าวเป็นให้จำเลยเปิดทางนี้ให้เดินโดยปรกติและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางสาธารณะ โจทก์เพิ่งปลูกเรือนได้ ๕ ปี ไม่เป็นภาระจำยอมและไม่จำเป็นและตัดฟ้องว่าฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ทางพิพาทเป็นทางเป็นจำเป็น ให้จำเลยเปิดทางให้กว้าง ๘๐ ซ.ม. ยาว ๑๗ วา และให้โจทก์จ่ายเงินค่าทดแทนให้จำเลย ๔๐๕๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์ว่าทางนี้เป็นทางสาธารณะและเป็นทางมีภาระจำยอม และโจทก์ไม่ควรต้องใช้ค่าที่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีคนประมาณ ๓๐-๔๐ คนอาศัยเข้าออกทางนี้ตลอดมาประมาณ ๔๐ ปี ที่พิพาทจึงตกเป็นที่มีภาระจำยอมตามประมวลแพ่งฯ มาตรา ๑๓๘๗,๑๔๐๑,๑๓๘๒ และเพราะโจทก์และผู้อื่นมีที่อยู่ข้างในได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางสัญจรไปสู่ซอยมิตรคามซึ่งเป็นทางสาธารณะมา ๔๐ ปี จำเลยไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทน.

Share