คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์พ.ศ.2522มาตรา54(2)ห้ามมิให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์กระทำการให้กู้ยืมเงินเว้นแต่การรับจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกันดังนั้นการที่โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ให้จำเลยทั้งสองกู้เงินโดยมิได้มีการจดทะเบียนจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกันจึงฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าวตกเป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบกิจการเกี่ยวกับธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์จำเลยทั้งสองทำสัญญากู้เงินโจทก์จำนวน 195,303.24 บาท ยอมเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ต่อปี นับแต่วันกู้จนกว่าจะชำระเสร็จต่อมาจำเลยทั้งสองผิดนัดโจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 242,933.62 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจให้กู้ยืมเงิน และไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ จำเลยทั้งสองไม่ได้กู้เงินและไม่ได้รับเงินจำนวนตามฟ้องจำเลยทั้งสองตกลงซื้อที่ดินพร้อมบ้านจากบริษัทเคหะนครจำกัด ในราคา 195,303.24 บาท โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือนบริษัทเคหะนคร จำกัด ให้จำเลยผ่อนชำระค่างวดผ่านทางโจทก์จำเลยผ่อนชำระค่างวดไปแล้วเป็นเงิน 17,200 บาท จำเลยทั้งสองได้ไปติดต่อขอกู้เงินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อจะนำไปชำระหนี้ที่เหลือ ซึ่งจำเลยต้องนำที่ดินและบ้านดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองเพื่อเป็นประกันหนี้ แต่บริษัทเคหะนคร จำกัด ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยได้ โดยอ้างว่าติดภาระจำนองกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาสีลม เพื่อเป็นประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของโจทก์ โจทก์กับบริษัทเคหะนคร จำกัดสมคบกันเพื่อฉ้อโกงจำเลยจำเลยไม่แน่ใจว่าบริษัททั้งสองจะจัดการไถ่ถอนจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ให้จึงไม่ชำระค่าที่ดินและบ้านโจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน242,933.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 21 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 188,299.07 บาท กับชำระเบี้ยประกันภัยรายเดือนเดือนละ 27.66 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาโจทก์การให้กู้ยืมเงินของโจทก์ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 หรือไม่ เห็นว่าตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 54(2) บัญญัติห้ามมิให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ กระทำการให้กู้ยืมเงินเว้นแต่การรับจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกัน ฉะนั้นการที่โจทก์ให้จำเลยทั้งสองกู้เงินจำนวน 195,303.24 บาท โดยที่มิได้มีการจดทะเบียนจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกัน จึงฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าวตกเป็นโมฆะที่โจทก์อ้างว่าตามบทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับให้โจทก์ต้องรับจดทะเบียนจำนองในวันทำสัญญากู้แต่อย่างใดนั้น ตามคำฟ้องของโจทก์ก็มิได้ฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสองนำหลักทรัพย์มาจดทะเบียนจำนองกับโจทก์ตามที่ระบุในสัญญา แต่เป็นการฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย แสดงว่าโจทก์มิได้นำพาจะให้มีการจดทะเบียนจำนองตามสัญญา
พิพากษายืน

Share