แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ที่โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายกับใช้ค่าปรับจำนวน 9,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จเพิ่มจากคำฟ้องเดิมเป็นการขอเพิ่มข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา และคำขอบังคับนอกเหนือไปจากคำฟ้องเดิม มิใช่เป็นกรณีเพิ่มทุนทรัพย์ที่พิพาทในฟ้องเดิมหรือเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(1)(2)ทั้งมิใช่เป็นการขอแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย การแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบที่จะกระทำได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 5156 และเลขที่ 20638ตำบลราษฎร์นิยม (ไทรใหญ่) อำเภอไทรน้อย (บางบัวทอง)จังหวัดนนทบุรี และบันทึกการให้การทำถนนซอยกว้าง 3 เมตรยาวประมาณ 12 เส้นในที่ดินโฉนดเลขที่ 5156 ดังกล่าว กับให้ร่วมกันถอนคำคัดค้านที่ให้ไว้ต่อการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานเขตบางใหญ่หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาและให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 4,000,000 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีแก่โจทก์ นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้วนัดสืบพยานโจทก์ ต่อมาในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าโจทก์มีอำนาจขอแก้ไขคำฟ้องได้หรือไม่ เห็นว่า คำฟ้องเดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาททั้งสองแปลงให้แก่โจทก์โดยมีเงื่อนไขในสัญญาจะซื้อขายดังกล่าวว่าจำเลยทั้งสองยอมให้โจทก์เข้าปรับปรุงพัฒนาที่ดินและนำไปขายต่อให้แก่บุคคลอื่นได้ ทั้งจำเลยทั้งสองจะแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 5165ให้ทำถนนกว้าง 3 เมตร ยาวประมาณ 12 เส้น ต่อมาโจทก์จำเลยทั้งสองและบุคคลภายนอกได้ทำบันทึกการให้ทางดังกล่าวไว้ต่างหากอีกฉบับหนึ่งด้วย แต่โจทก์ไม่สามารถพัฒนาและทำถนนให้แล้วเสร็จตามที่ตกลงกันได้ เนื่องจากจำเลยที่ 2 คอยขัดขวางเช่น คัดค้านการขอติดตั้งไฟฟ้า น้ำประปา ลงในพื้นที่ส่วนที่เป็นถนนซอย เป็นเหตุให้บุคคลภายนอกเดือดร้อน โจทก์ต้องจ่ายเงินค่าถมดินในพื้นที่ถนนซอย ค่าขอติดตั้งไฟฟ้า ค่าน้ำประปาถังน้ำบาดาล และค่าปรับให้แก่บุคคลภายนอกที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวรวมเป็นเงิน 4,000,000 บาท จึงขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสองปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายและข้อตกลงในบันทึกการให้ทาง ทั้งให้จำเลยทั้งสองร่วมกันถอนคำคัดค้านที่ให้ไว้ต่อการไฟฟ้านครหลวงสำนักงานเขตบางใหญ่ กับชำระค่าเสียหาย 4,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ซึ่งตามคำฟ้องเดิมโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองผิดสัญญาจะซื้อขาย โดยไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนด อันจะทำให้มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองได้อีกหนึ่งเท่าตัว (จำนวน 9,000,000 บาท)ตามสัญญาจะซื้อขายท้ายฟ้องข้อ 3 แต่อย่างใด ดังนั้นที่โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายกับใช้ค่าปรับจำนวน 9,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จเพิ่มจากคำฟ้องเดิม จึงเป็นการขอเพิ่มข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา และคำขอบังคับนอกเหนือไปจากคำฟ้องเดิมที่เสนอต่อศาลแต่แรก มิใช่เป็นกรณีที่เพิ่มจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในฟ้องเดิมหรือเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(1)(2) ทั้งมิใช่เป็นการขอแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยดังที่โจทก์ฎีกา การแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบที่จะกระทำได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้ยกคำร้องของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน