คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเบิกความต่อศาลในคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องว่า จำเลยไม่เคยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึงโจทก์ แต่ศาลมิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของจำเลยและข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ขึ้นวินิจฉัย หากแต่ได้วินิจฉัยถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ แล้วพิพากษาลงโทษโจทก์ ส่วนคำเบิกความของจำเลยและเอกสารหมาย จ.1 ไม่มีน้ำหนักในการวินิจฉัยของศาล หรือจะมีผลให้แพ้ชนะคดีกัน ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.1 ส่งให้แก่โจทก์จึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติการเป็นเจ้าพนักงานในหน้าที่ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ ๑๘ มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความในเอกสาร ได้ออกหนังสือถึงโจทก์ซึ่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านเชิงดอย (ดอยสะเก็ดศึกษา) ว่า ครูใหญ่คนก่อนแจ้งย้ายเด็กผิด โดยเด็กที่ย้ายชื่อเด็กชายชูกิจ เป็นบุตรนายด้วงนางสม ไม่ใช่เด็กชายชูศักดิ์ เด็กชายชูศักดิ์เป็นน้องของเด็กชายชูกิจ คำรับรองนี้เป็นเท็จ ความจริงไม่มีเด็กชายชูกิจ เป็นการรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์หลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงได้ออกใบสุทธิให้แก่เด็กชายชูศักดิ์ว่าเป็นเด็กชายชูกิจตามที่จำเลยรับรอง เป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานออกหลักฐานเท็จและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในคดีดังกล่าวจำเลยได้เบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า จำเลยไม่ได้ออกหนังสือรับรองฉบับดังกล่าวให้แก่ครูใหญ่โรงเรียนบ้านเชิงดอย ซึ่งเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดี ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโดยถูกศาลพิพากษาลงโทษ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗, ๑๖๒, ๑๗๗
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๑๖๒ ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ นั้น แม้จำเลยจะเบิกความเท็จว่า จำเลยมิได้ทำรับรองเอกสารหมาย จ.๑ ก็ตามแต่ในคดีดังกล่าวศาลก็มิได้นำเอาคำเบิกความของจำเลยมาวินิจฉัยชี้ขาดคดีแต่อย่างใด ฉะนั้น แม้คำเบิกความของจำเลยจะเป็นเท็จก็มิได้เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดในฐานนี้เช่นกัน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าการที่จำเลยได้ทำเอกสารหมาย จ.๑ ส่งให้แก่โจทก์ แต่จำเลยกลับเบิกความต่อศาลในคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องว่า จำเลยไม่เคยทำหนังสือดังกล่าวถึงโจทก์นั้น เป็นการเบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในคดีดังกล่าวศาลมิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของจำเลยและข้อความในเอกสารหมาย จ.๑ ขึ้นวินิจฉัยแต่อย่างใด หากแต่ได้วินิจฉัยถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ แล้วพิพากษาลงโทษโจทก์ ส่วนคำเบิกความของจำเลยและเอกสารหมาย จ.๑ ที่จำเลยทำขึ้นนั้นไม่มีน้ำหนักในการวินิจฉัยของศาล หรือจะมีผลให้แพ้ชนะคดีกันแต่อย่างใด ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.๑ ส่งให้แก่โจทก์จึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
พิพากษายืน

Share