คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมผูกพันคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ต่อเมื่อเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย หรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 143 วรรคแรก แต่ข้อความที่โจทก์ขอแก้ไขโดยเพิ่มเติมข้อความว่า พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 18.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันทำยอมเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อจากข้อความที่ว่า จำเลยยอมรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 892,456.72 บาทนั้น เป็นการเพิ่มความรับผิดให้จำเลยต้องรับผิดในส่วนของดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิม จึงไม่ใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ แม้จำเลยจะไม่คัดค้าน โจทก์ก็ไม่อาจแก้ไขได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยฉบับลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 โดยเฉพาะสัญญาข้อ 1 มีใจความว่า จำเลยยอมรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 892,456.72 บาท แก่โจทก์
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขสัญญาประนีประนอมยอมความอ้างว่า โจทก์พิมพ์ข้อความเกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยในส่วนดอกเบี้ยนับจากวันทำยอมตกหล่นผิดไปจากเจตนาที่แท้จริงของโจทก์และจำเลย จึงขอแก้ไขโดยเพิ่มเติมข้อความว่าพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันทำยอมเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อจากข้อความที่ว่า จำเลยยอมรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 892,456.72 บาท ในสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 1 โดยจำเลยยินยอมให้แก้ไข
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่อาจแก้ไขคำพิพากษาตามยอมให้ได้ แต่รับไว้เป็นบันทึกข้อตกลงในชั้นบังคับคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ขอแก้ไขสัญญาประนีประนอมยอมความโดยเพิ่มเติมข้อความว่า พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันทำยอมเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อจากข้อความที่ว่า จำเลยยอมรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 892,456.72 บาท ในสัญญาข้อ 1 ได้หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ต่อเมื่อเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ไปประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคแรก แต่ข้อความที่โจทก์ขอแก้ไข และศาลชั้นต้นไม่อนุญาตนั้นเป็นการเพิ่มความรับผิดให้จำเลยต้องรับผิดในส่วนของดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิม จึงมิใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่นๆ แม้จำเลยจะไม่คัดค้าน โจทก์ก็ไม่อาจขอแก้ไขได้ คำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
อนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งค่าฤชาธรรมเนียมและศาลชั้นอุทธรณ์ภาค 9 ก็มิได้พิพากษาแก้ไข ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้น และชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share