คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏต่อศาลว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์ของผู้ประกัน ผู้เข้าสู้ราคาสมคบกันกดราคาให้ต่ำจากราคาปกติไปมากและผู้เข้าสู้ราคาทั้งหมดทำงานเกี่ยวข้องกับศาล ทำให้มีเหตุน่าเชื่อว่า การประมูลซื้อทรัพย์จะไม่ได้กระทำอย่างตรงไปตรงมาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 ศาลย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นเสียเองได้ เพื่อให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ประกันได้ทำสัญญาประกันตัวจำเลยระหว่างอุทธรณ์และผิดสัญญาประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ประกัน50,000 บาท ผู้ประกันไม่ชำระ พนักงานอัยการขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์น.ส.3 ก. เลขที่ 3351 ของผู้ประกันและประกาศขายทอดตลาดนายพงษ์เทพ มุสิเกตุ เป็นผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยเป็นผู้ให้ราคาสูงสุด 52,000 บาท
ผู้ประกันยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ขายโดยไม่มีการนับหนึ่งถึงสามก่อน จึงเป็นการขายที่ไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนการขายและให้มีการขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ขายทรัพย์ให้แก่นายพงษ์เทพ มุสิเกตุ ผู้ซื้อและให้ขายทอดตลาดใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ซื้อในประเด็นว่า การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่นับหนึ่งถึงสามก่อนเคาะไม้ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การขายทอดตลาดจึงยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดเนื่องจากพิจารณาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่ต้องพิจารณาว่าราคาที่ผู้ซื้อเสนอจะต้องเป็นราคาที่สมควร ราคาที่อนุญาตให้ขายเป็นราคาที่ต่ำมากและผู้เข้าสู้ราคาทั้งสี่คนล้วนทำงานเกี่ยวกับศาล พฤติการณ์แสดงว่าผู้ซื้อกดราคาเป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งเกินกว่าที่ปรากฏในคำร้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าผู้เข้าสู้ราคาสมคบกันกดราคาให้ต่ำจากราคาปกติไปมาก และผู้เข้าสู้ราคาทั้งสี่ก็ทำงานเกี่ยวข้องกับศาลทำให้มีเหตุน่าเชื่อว่าการประมูลซื้อทรัพย์ของผู้ประกันในการขายทอดตลาดครั้งนี้จะไม่ได้กระทำอย่างตรงไปตรงมา เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เมื่อความไม่ถูกต้องในการขายทอดตลาดปรากฏขึ้นต่อศาลโดยชัดแจ้งเช่นนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่กระทำโดยไม่ชอบนั้นเสียเองได้ เพื่อให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง”
พิพากษายืน

Share