คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยมิได้บรรจุโจทก์ให้เป็นพนักงานคุมเครื่องทำความเย็นโดยเฉพาะ และไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างห้ามมิให้จำเลยโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่โจทก์ ดังนั้นเมื่อโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยไม่เติม น้ำเครื่องทำความเย็น ทำให้เครื่องทำความเย็นดับ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย จำเลยจึงมีสิทธิสั่งสับเปลี่ยนโยกย้ายโจทก์โดยให้โจทก์ได้ค่าจ้างเท่าเดิมเพื่อไปทำหน้าที่พนักงานทั่วไปได้ เมื่อไม่ปรากฏว่าตำแหน่งพนักงานทั่วไปเป็นตำแหน่งที่ต่ำกว่าพนักงานคุมเครื่องทำความเย็นหรือโจทก์ได้รับสิทธิประโยชน์ลดลง จึงไม่เป็นการผิดสภาพการจ้างและไม่เป็นการลงโทษหรือเป็นผลให้โจทก์ซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างไม่สามารถทำงานอยู่ต่อไปได้ อันจำเลยจะต้องขออนุญาตต่อศาลแรงงานก่อนตาม พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 52.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยและเป็นกรรมการลูกจ้างทำงานในหน้าที่เป็นพนักงานคุมเครื่องทำความเย็นต่อมาวันที่ 2 สิงหาคม 2529 จำเลยได้มีคำสั่งลดตำแหน่งโจทก์ไปเป็นพนักงานทั่วไป โดยโจทก์ไม่มีความผิดและไม่ยินยอม อันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 20 และจำเลยมิได้ขออนุญาตศาลแรงงานกลางก่อนจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518มาตรา 52 ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และสั่งให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานเป็นพนักงานคุมเครื่องทำความเย็ตตามเดิม
จำเลยให้การว่า จำเลยมีคำสั่งย้ายหน้าที่ของโจทก์เพื่อความเหมาะสม เนื่องจากโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจนเกือบทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย การย้ายหน้าที่ของโจทก์มิใช่เป็นการลดตำแหน่งโดยจำเลยเห็นว่าโจทก์ขาดทุนคุณสมบัติที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ดังกล่าว จึงจำเป็นต้องย้ายโจทก์ไปทำงานในตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกันและการสับเปลี่ยนตำแหน่งโจทก์เป็นสิทธิอันพึงมีอยู่ตามกฎหมายของจำเลย มิใช่เป็นการลงโทษหรือลดตำแหน่งโจทก์จำเลยจึงไม่ต้องขออนุญาตจากศาลแรงงานก่อน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องทำให้จำเลยได้รับความเสียหายจำเลยจึงสั่งสับเปลี่ยนหน้าที่โจทก์คำสั่งของจำเลยชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่จะสั่งยกเลิกคำสั่งของจำเลยพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยปฏิบัติงานในตำแหน่งพนักงานคุมเครื่องทำความเย็น ต่อมาวันที่ 1 มีนาคม 2529 โจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องไม่เติมน้ำเครื่องทำความเย็นจนเครื่องทำความเย็นดับ ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายผลผลิตชะงักไปชั่วคราว จำเลยจึงยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางขออนุญาตลงโทษตักเตือนโจทก์เป็นลายลักษณ์อักษรศาลแรงงานกลางสั่งอนุญาตตามขอ ต่อมาวันที่ 2 สิงหาคม 2529จำเลยได้มีคำสั่งย้ายโจทก์ไปทำหน้าที่พนักงานทั่วไป โดยให้ค่าจ้างเท่าเดิม ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่าการที่จำเลยมีคำสั่งสับเปลี่ยนโยกย้ายโจทก์ไปทำหน้าที่พนักงานทั่วไปเป็นการชอบหรือไม่ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงไม่ปรากกว่าจำเลยได้บรรจุโจทก์เป็นพนักงานคุมเครื่องทำความเย็น (แอร์) โดยเฉพาะ และไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างห้ามมิให้จำเลยโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่โจทก์ ดังนั้นเมื่อโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยไม่เติมน้ำเครื่องทำความเย็นทำให้เครื่องทำความเย็นดับ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย ทำให้การผลิตชะงักไปชั่วคราว จำเลยจึงมีสิทธิสั่งสับเปลี่ยนโยกย้ายโจทก์โดยให้โจทก์ได้ค่าจ้างเท่าเดิมเพื่อไปทำหน้าที่พนักงานทั่วไปได้ เมื่อไม่ปรากฏว่าตำแหน่งพนักงานทั่วไปเป็นตำแหน่งที่ต่ำกว่าตำแหน่งพนักงานคุมเครื่องทำความเย็นหรือโจทก์ได้รับสิทธิประโยชน์ลดลง จึงไม่เป็นการผิดสภาพการจ้าง และไม่เป็นการลงโทษหรือเป็นผลให้โจทก์ซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างไม่สามารถทำงานอยู่ต่อไปได้ อันจำเลยจะต้องขออนุญาตต่อศาลแรงงานก่อนตาม มาตรา 52 ดังที่โจทก์ยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์…”
พิพากษายืน.

Share