คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินซึ่งเป็นสินบริคณห์ โฉนดมีชื่อสามีภริยา ภริยาเอาไปโอนขายแต่ผู้เดียว สามีมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนได้.

ย่อยาว

ได้ความว่า โจทก์และนางปุ๋ยภริยาโจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิในโฉนดร่วมกัน นางปุ๋ยตาย จึงปรากฎว่าได้มีการมอบฉันทะให้จำเลยที่ ๒ โอนส่วนของนางปุ๋ยให้จำเลยที่ ๑ โดยมิได้มีหลักฐานการยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทราบแล้วไม่คัดค้านหรือบอกล้างใน ๑ ปี
ศาลชั้นต้นงดสืบพะยาน พิพากษาว่า การกระทำของนางปุ๋ยผิดแบบ เป็นโมฆะ ให้เพิกถอนการโอน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องผิดแบบ เป็นเรื่องความสามารถของบุคคล ภริยาจำหน่ายฉะเพาะส่วนของตนได้ การไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์เป็นหนังสือเป็นเรื่องโมฆียะกรรม ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ในประเด็นเรื่องโจทก์ไม่บอกล้างใน ๑ ปี
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ภรรยาหามีอำนาจจำหน่ายสินบริคณห์ไม่ สินบริคณห์มีเอกสารลงชื่อสามีภริยาต้องเข้าชื่อด้วยกันทั้งสองคน จึงจะจำหน่ายสินบริคณห์ได้ เมื่อปรากฎว่า การจำหน่ายสินบริคณห์รายนี้เป็นการกระทำของนางปุ๋ยคนเดียว มิได้มีชื่อโจทก์เป็นผู้ร่วมในการจำหน่ายด้วย จึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมายไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการโอนตามศาลชั้นต้น.

Share