แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การซื้อขายเรือนซึ่งไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ย่อมไม่เป็นโมฆะเสมอไป ยังต้องอาศัยข้อเท็จจริงในทางพิจารณาอยู่ว่าเป็นการซื้อขายเรือนเพื่อรื้อเอาไป หรือว่าเป็นการซื้อขายเพื่อให้เรือนคงอยู่ในสภาพเดิม ซึ่งข้อบัญญัติของกฎหมายย่อมมีนัยต่างกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อเรือนมาปลูกสร้างให้โจทก์ตามสภาพเดิม มิฉะนั้น ให้ใช้ราคาเรือนและค่าเสียหาย โดยจำเลยสมคบกันรื้อเรือนของโจทก์ จำเลยที่ 2 ให้การว่า เรือนที่โจทก์หาราคาไม่ถึง 4,000 บาท และเป็นของจำเลยที่ 1 ๆ ขายให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องไม่ได้ โจทก์ขอถอนฟ้องศาลอนุญาต ศาลชั้นต้นถามคู่ความแล้ววินิจฉัยว่า เรือนพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ จำเลยที่ 1 ขายให้จำเลยที่ 2 โดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นโมฆะ จำเลยที่ 2 ไม่ได้กรรมสิทธิ์ และเมื่อรับว่าโจทก์เป็นเจ้าของร่วมด้วย จึงให้งดสืบพยานในข้อซื้อขาย และให้สืบเฉพาะราคาเรือน และค่าเสียหายศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานให้สิ้นกระแสความ แล้วพิพากษาต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ พิพาทกันเรื่องเรือนที่จำเลยรื้อไปซึ่งข้อกฎหมายต่างกับการซื้อขายเพื่อให้เรือนยังคงอยู่ในสภาพเดิมรายงานพิจารณาที่จดไว้อ่านรวมกันเข้าทั้งหมดก็ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยรับว่าโจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของเรือนรายพิพาท
พิพากษายืน