แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำสัญญาค้ำประกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยมอบโฉนดและเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ ในมอบอำนาจให้ไว้เพื่อเจ้าหนี้จะได้นำไปขอจดทะเบียน จำนองแล้วต่อมาฝ่ายเจ้าหนี้ ได้ไปจัดการทำจำนองเป็นจำนวนเงินสู้ขึ้นอีกนั้น เป็นการทำนอกเหนือจากสัญญาค้ำประกันและมอบอำนาจ ผู้ค้ำประกันคงต้องรับผิดไม่เกินจำนวน 100,000 บาท
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญากู้โดยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์จำเลยที่ ๒ ทำสัญญาค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน ๑๐๐, ๐๐๐ บาท และจำเลยที่ ๒ ได้มอบโฉนด ๒ ฉบับ ตราจอง ๑ ฉบับ กับเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ในมอบอำนาจให้แก่โจทก์ไว้ด้วย ๓ ฉบับ เพื่อโจทก์จะได้จัดการทำจำนอง แล้วเจ้าหน้าที่ธนาคารโจทก์ได้ใช้ใบมอบอำนาจเช่นนั้น ไปจัดการจำนองที่ดินโฉนดดังกล่าวเป็นจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท และทำสัญญาข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองอีกว่า จำนองประกันหนี้สินซึ่งจำเลยที่ ๑ เบิกเกินบัญชีหรือหนี้อื่น ๆ ทั้งที่มีอยู่แล้วหรือจะมีขึ้นในภายหน้า ต่อมาภายหลัง เจ้าหน้าที่ธนาคารโจทก์ได้ใช้ใบมอบอำนาจเดิมดังกล่าวแล้วนั้นเอง ไปทำสัญญาจำนองเพิ่มเติม สำหรับที่ดินที่เหลือตามาโฉนด ๑ ฉบับ และตราจอง ๑ ฉบับ ไว้อีกเป็นจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๒ ให้การต่อสู้ว่า โจทก์นำแบบพิมพ์ใบมอบอำนาจที่เซ็นชื่อให้ไว้ไปกรอกข้อความใช้เกินขอบอำนาจที่ได้รับมอบหมาย และหากจำเลยที่ ๒ จะต้องรับผิดก็เป็นจำนวนไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ รับผิดเฉพาะจำนวนเงิน เบิกเกินบัญชี ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารโจทก์ไปทำสัญญาจำนองมีจำนวนเงินเกินจำนวนที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้นั้น ปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ มิได้ตกลงรู้เห็นด้วย เป็นการกรอกข้อความเพื่อประโยชน์ของโจทก์ฝ่ายเดียว ไม่สุจริต พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารโจทก์ กระทำนอกเหนือเหลือเกินจากสัญญาค้ำประกันและการมอบอำนาจ จึงพิพากษายืน